จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๘๐

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๘๐…

…การทำงานแต่ละอย่างนั้น เราจึงต้องคิดพิจารณาตั้งแต่เริ่มต้นว่าสิ่งที่คิดและกิจที่จะทำนั้น เรามีกำลังความรู้ความสามารถเพียงพอหรือไม่มีเหตุและปัจจัยเหมาะสมที่จะลงมือทำหรือไม่ อุปสรรคปัญหาที่จะมีมาในอนาคตเป็นอย่างไร มีทางออกหรือไม่ ถ้าอุปสรรคปัญหานั้นเกิดขึ้นต้องมองงานให้แตก แยกงานให้เป็นจึงจะตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ในสิ่งที่คิดไว้

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๘๐”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๙

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๙…

…หลักธรรมทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์นั้น จัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เป็นหมวด เป็นหมู่ เป็นแถว เป็นแนวตรงกัน ไม่มีการขัดแย้งกัน สงเคราะห์อนุเคราะห์เกื้อกูลรองรับซึ่งกันและกัน เราไม่อาจจะไปปรับหลักทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ให้มาตรงกับความคิดเห็นของเราได้ แต่เราสามารถที่จะย้ายจุดยืนของเราให้ไปตรงกับหลักที่วางไว้ตั้งไว้ได้

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๙”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๘

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๘…

…ความโมโหจะนำไปสู่ความตกต่ำอย่าไปโมโห โกรธผู้อื่นเพราะความโกรธคือไฟซึ่งมันจะเผาไหม้เจ้าของเองถ้าเขาทำตัวไม่ดี มันก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเราการที่เราไปโกรธเขา โมโหเขาจึงเท่ากับเราไปแบกรับเอาทุกข์เอากิเลสของเขามา ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า “การเพ่งโทษผู้อื่นเขามันเป็นการเพิ่มกิเลสให้ตัวเราเอง”…

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๘”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๗

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๗…

…ธรรมทานนี้เลิศกว่าทานทั้งหลายการแสดงธรรมบ่อย ๆ แก่บุคคลผู้เงี่ยหูลงรับฟัง นี้เลิศกว่าการพูดถ้อยคำอันเป็นที่รัก การชักชวนผู้ไม่ศรัทธาให้ตั้งมั่นทรงไว้ได้ถึงพร้อมด้วยศรัทธาชักชวนผู้ละเมิดศีล ให้ตั้งมั่นทรงไว้ได้ถึงพร้อมด้วยศีล ชักชวนผู้ไม่อยากให้ให้ตั้งมั่นทรงไว้ ได้ถึงพร้อมด้วยการปันให้ชักชวนผู้มีปัญญาทราม ให้ตั้งมั่นทรงไว้ได้ถึงพร้อมด้วยปัญญา นี้เลิศกว่าการประพฤติประโยชน์ทั้งหลาย

…จากพระไตรปิฎก ภาษาไทยฉบับหลวงเล่มที่ ๒๓ “พลสูตร” ข้อที่ ๒๐๙…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕…

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๖

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๖…

…ทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ระบบที่กำหนดไว้ทั้งในเรื่องทางโลกและในเรื่องของทางธรรม ปรับกาย ปรับจิต ปรับสถานที่ให้เกิดความพอดีและความเหมาะสมตามอัตภาพ

…“เรียบง่าย ไร้รูปแบบ แต่ไม่ไร้สาระ” คือสภาวะของความเหมาะสมกับ จังหวะเวลา โอกาส สถานที่ บุคคล ตามเหตุผลและปัจจัย องค์ประกอบที่มีในขณะนั้นไม่ใช่การ ไร้กฎกติกา ไร้ระเบียบวินัยที่เป็นไปเพราะความมักง่าย ความขี้เกียจซึ่งสิ่งนั้นมันเกิดจากอกุศลจิต แต่เป็นการไม่เข้าไปยึดติดในรูปแบบและพิธีการจนเกินไป โดยดูตามความเหมาะสมมีกฎกติกาในชีวิต ในกิจทั้งหลายที่ควรทำ เป็นไปตามธรรมชาติตามความเหมาะสมของปัจจุบันธรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕…

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๕

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๕…

…บุคคลแตกต่างด้วยธาตุและอินทรีย์ บารมีที่สร้างสมกันมา การเจริญกุศลจิตเจริญสติภาวนา ก็เพื่อเพิ่มพูนกำลังของบุญกุศล ให้รู้จักกายและใจของตนเพื่อให้เห็นคุณ เห็นโทษ เห็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ของสรรพสิ่งทั้งหลาย ทั้งภายนอกและภายใน ทั้งกายและจิตของเรา เพื่อเพิ่มคุณธรรม ความละอายและเกรงกลัวต่อบาปให้มากขึ้นแก่จิตของเรา

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๕”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๔

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๗๔…

…หนาวลมที่ริมหน้าต่าง…

๐ สายลมที่พัดผ่าน
หนาวสะท้านทั่วทั้งกาย
สายลมสื่อความหมาย
บอกให้รู้ฤดูกาล

๐ ยามเช้าที่หนาวเหน็บ
จึงขอเก็บมาเล่าขาน
เรื่องราวของวันวาน
เล่าให้รู้สู่กันฟัง

๐ ห่างหายและเหินห่าง
เพราะไม่ว่างมีเบื้องหลัง
ภาระที่รุงรัง
ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม

๐ งานหลวงมิให้ขาด
และงานราษฎร์ก็ไม่หลวม
เร่งสร้างเพื่อส่วนรวม
จารึกไว้ในแผ่นดิน

๐ ศาลาโบสถ์วิหาร
นั้นเป็นงานในเชิงศิลป์
ผู้คนได้ยลยิน
สืบสานต่อเจตนา

๐ บูชาคุณพระพุทธ
สิ่งสูงสุดศาสนา
บูชาพระธัมมา
ซึ่งคำสอนสัจธรรม

๐ บูชาซึ่งพระสงฆ์
ที่ดำรงคุณค่าล้ำ
ตัวอย่างที่ก้าวนำ
ปฏิบัติกันสืบมา

๐ งานนอกคือก่อสร้าง
ทุกสิ่งอย่างต้องเสาะหา
งานในภาวนา
สำรวมจิตให้มั่นคง

๐ ไม่ว่างภารกิจ
แต่ดวงจิตไม่ลืมหลง
ยึดมั่นและดำรง
ภายในว่างจากอัตตา

๐ ทำงานทุกชนิด
เจริญจิตภาวนา
รู้กาลรู้เวลา
ว่ากระทำเพื่อสิ่งใด

๐ ขอบคุณสายลมหนาว
ให้ตื่นเช้ารับวันใหม่
สายลมอาจเปลี่ยนไป
แต่ดวงจิตไม่เปลี่ยนแปลง

๐ ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ทั่วทุกถิ่นและหนแห่ง
ทำไปตามเรี่ยวแรง
ความสามารถเท่าที่มี

๐ สืบต่อศาสนา
สืบรักษาซึ่งวิถี
สืบต่อสิ่งที่ดี
คือพระธรรมองค์สัมมา

๐ ละเว้นสิ่งมิชอบ
ไม่ประกอบซึ่งมิจฉา
มรรคแปดที่มีมา
ทางสายเอกให้เดินตาม

๐ เป็นทางมัชฌิมา
มีคุณค่าอย่ามองข้าม
ไม่เกินพยายาม
ปฏิบัติตามแนวทาง

๐ ธรรมะในยามเช้า
คือเรื่องเล่าริมหน้าต่าง
ฟ้าเริ่มจะรุ่งสาง
เช้าวันใหม่ใกล้จะมา

๐ เช้าใหม่ชีวิตใหม่
ดำเนินไปให้มีค่า
ตามธรรมองค์สัมมา
ในทางโลกและทางธรรม

๐ ธรรมะอยู่คู่โลก
ลบรอยโศกและรอยช้ำ
เพียงเรานั้นน้อมนำ
ปฏิบัติและเดินตาม

๐ ฝากไว้เป็นข้อคิด
แต่มวลมิตรทุกผู้นาม
ฝึกใจให้งดงาม
เป็นพุทธะ” ปัจจัตตัง “…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕…