บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๑

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๑…

…ในส่วนลึกใต้จิตสำนึกของทุกคนนั้นย่อมจะมีจิตสำนึกแห่งความใฝ่ดีซ่อนอยู่เสมอ เพียงแต่บางครั้งยังไม่ได้แสดงออกมา เพราะเงื่อนไขของเรื่องจังหวะ เวลา โอกาส สถานที่และตัวบุคคลนั้นยังไม่เอื้ออำนวย จึงไม่เปิดโอกาสให้แสดงออกมาได้ในสิ่งนั้นทุกคนต่างมีเหตุปัจจัยและพื้นฐานความคิดที่แตกต่างกัน ทำให้ความคิดเห็นของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป การที่จะไปตัดสินว่าความคิดเห็นของใครนั้นถูกหรือผิด เราไม่ควรเอาพื้นฐานความคิดเห็นของตัวเรานั้นมาเป็นข้อสรุป ว่าสิ่งที่เขาคิดเห็นนั้นถูกหรือผิด เพราะว่าทุกคนต่างก็มีจิตสำนึกที่แตกต่างกันไป โดยพื้นฐานจากเหตุและปัจจัยของแต่ละคนนั้นมีที่มาและที่ไปที่แตกต่างกัน

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๑”

คติธรรมคำสอนของหลวงพ่อจำเนียร

…คติธรรมคำสอนของหลวงพ่อจำเนียร…

…ไม่น้อยใจตัวเองและผู้อื่น
…ไม่เสียใจตัวเองและผู้อื่น
…ไม่โกรธตัวเองและผู้อื่น
…ไม่ประชดตัวเองและผู้อื่น

…สายลมที่พัดผ่าน
หนาวสะท้านทั่วทั้งกาย
สายลมสื่อความหมาย
บอกให้รู้ฤดูกาล

…ยามเช้าที่หนาวเหน็บ
จึงขอเก็บมาเล่าขาน
เรื่องราวของวันวาน
เล่าให้รู้สู่กันฟัง

…ห่างหายและเหินห่าง
เพราะไม่ว่างมีเบื้องหลัง
ภาระที่รุงรัง
ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม

… งานหลวงมิให้ขาด
และงานราษฎร์ก็ไม่หลวม
เร่งสร้างเพื่อส่วนรวม
จารึกไว้ในแผ่นดิน

…ศาลาโบสถ์วิหาร
นั้นเป็นงานในเชิงศิลป์
ผู้คนได้ยลยิน
สืบสานต่อเจตนา

…บูชาคุณพระพุทธ
สิ่งสูงสุดศาสนา
บูชาพระธัมมา
ซึ่งคำสอนสัจธรรม

…บูชาซึ่งพระสงฆ์
ที่ดำรงคุณค่าล้ำ
ตัวอย่างที่ก้าวนำ
ปฏิบัติกันสืบมา

…งานนอกคือก่อสร้าง
ทุกสิ่งอย่างต้องเสาะหา
งานในภาวนา
สำรวมจิตให้มั่นคง

… ไม่ว่างภารกิจ
แต่ดวงจิตไม่ลืมหลง
ยึดมั่นและดำรง
ภายในว่างจากอัตตา

…ทำงานทุกชนิด
เจริญจิตภาวนา
รู้กาลรู้เวลา
ว่ากระทำเพื่อสิ่งใด

…ขอบคุณสายลมหนาว
ให้ตื่นเช้ารับวันใหม่
สายลมอาจเปลี่ยนไป
แต่ดวงจิตไม่เปลี่ยนแปลง

…ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ทั่วทุกถิ่นและหนแห่ง
ทำไปตามเรี่ยวแรง
ความสามารถเท่าที่มี

… สืบต่อศาสนา
สืบรักษาซึ่งวิถี
สืบต่อสิ่งที่ดี
คือพระธรรมองค์สัมมา

…ละเว้นสิ่งมิชอบ
ไม่ประกอบซึ่งมิจฉา
มรรคแปดที่มีมา
ทางสายเอกให้เดินตาม

…เป็นทางมัชฌิมา
มีคุณค่าอย่ามองข้าม
ไม่เกินพยายาม
ปฏิบัติตามแนวทาง

…ธรรมะในยามเช้า
จากลมหนาวริมหน้าต่าง
ฟ้าเริ่มจะรางราง
เช้าวันใหม่ใกล้จะมา

…เช้าใหม่ชีวิตใหม่
ดำเนินไปให้มีค่า
ตามธรรมองค์สัมมา
ในทางโลกและทางธรรม

…ธรรมะอยู่คู่โลก
ลบรอยโศกและรอยช้ำ
เพียงเรานั้นน้อมนำ
ปฏิบัติและเดินตาม

…ฝากไว้เป็นข้อคิด
แต่มวลมิตรทุกผู้นาม
ฝึกใจให้งดงาม
เป็นพุทธะ”ปัจจัตตัง”…

….(ปัจจัตตังคือการรู้ได้เฉพาะตน)…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๕…

ใคร่ครวญธรรมในยามดึก

…ใคร่ครวญธรรมในยามดึก…

…วันเวลาแห่งชีวิตลิขิตไปตามกฎแห่งกรรมสิ่งที่เราเคยได้กระทำมาในอดีตและปัจจุบันส่งผลมาสู่วันนี้ทั้งกรรมดีที่เป็นกุศลส่งผลให้พบสิ่งดีและกรรมที่เป็นอกุศลที่ส่งผลมาเป็นอุปสรรคปัญหา สิ่งที่ผ่านมาแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เพราะเป็นอดีต จงยืดอกยิ้มสู้ยอมรับในกฎแห่งกรรมที่ทำมา…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมในยามดึก”

รำพึงธรรมและคำกวีในยามรุ่งอรุณ

…รำพึงธรรมและคำกวีในยามรุ่งอรุณ…

…การสร้างเหตุและปัจจัยที่ดีในวันนี้เป็นการชี้หนทางในอนาคตของตนเป็นเหตุและผลที่จะส่งผลในอนาคตเป็นการกำหนดอนาคตหนทางที่จะไปโลกและธรรมนั้นต้องเดินควบคู่กันไปเพื่อให้โลกนี้มีคุณธรรม

…โดยการเริ่มกระทำที่จิตใจของเราเป็นเริ่มแรก จัดระเบียบให้แก่ชีวิตของตนเองเสียก่อน ก่อนที่จะไปเรียกร้องจัดระเบียบให้แก่สังคม เริ่มต้นที่ความคิดเริ่มที่จิตของเราเอง…

อ่านเพิ่มเติม “รำพึงธรรมและคำกวีในยามรุ่งอรุณ”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๓๑

..บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๓๑…

…“อย่าไปหวั่นไหวกับกระแสโลกจนเกินไป คืออย่าไปยินดี ยินร้ายกับคำสรรเสริญและคำนินทา ความสุขหรือความทุกข์ และลาภยศทั้งหลายอย่าไปหวั่นไหวกับมัน เพราะว่าความหวั่นไหวนั้น มันจะทำให้เราขาดความเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวของเราเองเรียกว่าเป็นคนไม่แน่นอน ทำอะไรไม่แน่นอน จิตนั้นย่อมทุรนทุรายหวั่นไหวไปกับโลกธรรม นำมาซึ่งความทุกข์ทั้งหลาย ถ้าเราวางใจให้อยู่เหนือโลกธรรมได้เมื่อไร ใจของเรานั้นก็จะเป็นสุข”…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๔…

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๐

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๐…

…ไม่เคยวุ่นวายใจไปกับคำนินทา ไม่เก็บคำนินทามาคิดให้รกสมอง จิตเราก็จะสบาย คำติฉินนินทานั้นคือยาชูกำลังที่จะยับยั้งไม่ให้เราหลงระเริงหยิ่งผยองลำพองใจคำนินทานั้นคือสิ่งกระตุ้นเตือนตัวเราได้คิดพิจารณาตัวของเราเขาติดีกว่าเขาชม ทำให้เรารู้ตัวว่าเขาคิดอย่างไรกับเรา

…ซึ่งถ้าตัวเรานั้นเป็นจริงอย่างที่เขานั้นกล่าวนินทา เราก็จะได้รู้และปรับปรุงแก้ไข แล้วเราจะไปโกรธเขาทำไม ซึ่งถ้าเราไปโกรธตอบต่อเขา ก็เท่ากับเรานั้นกำลังแพ้ภัยกิเลสในใจของเรานั้นเอง…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๐”

ทบทวนธรรมตามกาลเวลา

…ทบทวนธรรมตามกาลเวลา…

…วันเวลาที่ผ่านไปในทุกขณะจิตนั้นมันเป็นการสั่งสมประสบการณ์ของชีวิตสอนให้เรานั้นได้คิดได้พิจารณาเพิ่มมากยิ่งขึ้น ขอให้เรานั้นมั่นคงในจุดยืนของการดำเนินชีวิตที่คิดจะสร้างจะทำก่อกรรมดีสร้างมงคลให้กับชีวิต เพื่อจะได้พัฒนาทางจิตให้เจริญก้าวหน้าในทางธรรมการเจริญสตินั้นจึงเป็นงานที่ต้องกระทำอยู่ตลอดเวลา…

อ่านเพิ่มเติม “ทบทวนธรรมตามกาลเวลา”

แสงทองแสงธรรมในยามเช้า

…แสงทองแสงธรรมในยามเช้า…

…เตือนตนอยู่เสมอว่า “จงกล่าวธรรมเพื่อธรรม กล่าวธรรม โดยธรรมทำหน้าที่ โดยการกล่าวธรรมซึ่งต้องให้เหมาะสมกับจังหวะเวลา โอกาส สถานที่และบุคคลคือต้องรู้จักกาละเทสะ ไม่กล่าวธรรมพร่ำเพรื่อต้องให้เหมาะกับกาลการกล่าวธรรมนั้นจึงจะบังเกิดผลก่อให้เกิดความเจริญในธรรมและได้รับการสนองตอบ เพราะชอบด้วยกาลและเวลา คือถูกที่ ถูกทางและถูกธรรม”…

๐ ธรรมทาน ๐
ธรรมทานนี้เลิศกว่าทานทั้งหลายการแสดงธรรมบ่อย ๆ แก่บุคคลผู้เงี่ยหูลงรับฟัง นี้เลิศกว่าการพูดถ้อยคำอันเป็นที่รัก การชักชวนผู้ไม่ศรัทธา ให้ตั้งมั่นทรงไว้ได้ถึงพร้อมด้วยศรัทธาชักชวนผู้ละเมิดศีล ให้ตั้งมั่นทรงไว้ได้ถึงพร้อมด้วยศีลชักชวนผู้ไม่อยากให้ ให้ตั้งมั่นทรงไว้ได้ถึงพร้อมด้วยการปันให้ชักชวนผู้มีปัญญาทราม ให้ตั้งมั่นทรงไว้ได้ถึงพร้อมด้วยปัญญานี้เลิศกว่าการประพฤติประโยชน์ทั้งหลาย…
…จากพระไตรปิฎก ภาษาไทยฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ “ พลสูตร ” ข้อที่๒๐๙…

อ่านเพิ่มเติม “แสงทองแสงธรรมในยามเช้า”

รำพึงธรรมและคำกวีก่อนทำวัตรเช้า

…รำพึงธรรมและคำกวีก่อนทำวัตรเช้า…

…ธรรมารมณ์ (สิ่งที่ใจนึกคิด) เป็นของละเอียดอ่อน ไร้รูป ไร้รส ไร้กลิ่น ไร้เสียงไร้การสัมผัส เป็นนามธรรม ที่จับต้องมิได้เป็นสิ่งที่เกิดภายใน มีใจเป็นตัวรับรู้และแผ่ออกมากระทบกับจิต ทำให้จิตแปรเปลี่ยนไป

…จิตของเราเหมือนภาชนะที่ว่างเปล่าเอาอะไรมาใส่ มันก็จะรองรับบรรจุสิ่งนั้นไว้เป็นห้องว่างที่ใครผ่านมาก็เข้าไปพักได้เราผู้เป็นเจ้าของห้องจึงต้องมีหน้าที่ที่จะต้องคอยดูแลรักษาและป้องกันมิให้สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายเข้ามาอยู่อาศัย

…โดยการพิจารณาแยกแยะกุศลและอกุศลที่จรมา รับไว้แต่สิ่งที่ดีมีสาระต่อการดำเนินชีวิตทางจิตของเราปฏิเสธสิ่งที่ไม่เป็นสาระไม่เกิดประโยชน์เป็นทุกข์เป็นภัยเป็นโทษ มิให้เข้ามาอยู่อาศัยในจิตเรา…

… ” จิตแท้ จิตเดิมนั้น ประภัสสร (งดงาม บริสุทธิ์) แต่จิตนี้เศร้าหมองแล้วเพราะกิเลสที่เป็นอาคันตุกะได้จรมาอยู่อาศัย “…

อ่านเพิ่มเติม “รำพึงธรรมและคำกวีก่อนทำวัตรเช้า”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๓๐

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๓๐…

…การปฏิบัติธรรมไม่ได้ทำให้เรานั้นฉลาดขึ้น แต่ทำให้เราเห็นความโง่ความหลงผิดในอดีต ของเราที่ผ่านมาปฏิบัติมากก็เห็นมากขึ้น…

…จิต
อ่อนแอและหวั่นไหว
แปรเปลี่ยนไปทุกเวลา
ปรุงแต่งอยู่เรื่อยมา
ไม่เคยหยุดสงบนิ่ง

…สติ
เพียรพยายามตามดูจิต
คอยเหนี่ยวรั้งมิให้พลั้งเผลอ
เตลิดออกไปนอกลู่นอกทาง
เป็นดั่งควาญที่บังคับช้าง

…จิต
ได้รับการฝึกฝนที่ดี มีสติเป็นนายควบคุมอยู่ ต่อสู้กับหมู่มารทั้งหลายอันได้แก่ กิเลส ตัณหา อุปาทานรู้เท่าทันอารมณ์ ไม่หลงคล้อยตามจิตก็เป็นอิสระจากพันธะแห่งหมู่มารความฟุ้งซ่านกังวลทั้งหลายก็หายไปจิตนั้นก็ได้พบซึ่งความสงบที่แท้จริง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๔…