รำพึงธรรมกับกาลเวลา

…รำพึงธรรมกับกาลเวลา…

…ถ้าอยากให้สิ่งที่ดี ๆ เกิดขึ้นกับตัวเรา เราก็ต้องมาทำเครื่องรับของเราให้มันดี คือมาปรับจิตปรับใจของเราให้มันดี คือทำจิตทำใจให้เป็นบุญกุศลเสียก่อน เมื่อกายและใจของเรานั้นอยู่กับบุญกุศลแล้ว สิ่งที่ดีย่อมบังเกิดขึ้นแก่เรา เพราะใจเรานั้นเป็นสื่อที่จะดึงดูดสิ่งที่ดีให้มาสู่กายและจิตของเรา

อ่านเพิ่มเติม “รำพึงธรรมกับกาลเวลา”

เทวะธรรม นำจิตให้คิดดี

…เทวะธรรม นำจิตให้คิดดี….

๐ เมื่อฝนซา ฟ้าใส ใจเป็นสุข
เพราะว่าทุกข์ ผ่านพ้น เริ่มต้นใหม่
เรื่องร้ายร้าย คลี่คลาย ผ่านพ้นไป
เริ่มต้นใหม่ ยังไม่สาย อย่ารั้งรอ

๐ อย่ามัวรอ ร้องขอ ต่อโอกาส
ไม่สามารถ เป็นได้ ใจจะท้อ
เริ่มที่เรา ต้องขวนขวาย ไม่นอนรอ
ต้องสานต่อ สร้างให้ฝัน นั้นเป็นจริง

อ่านเพิ่มเติม “เทวะธรรม นำจิตให้คิดดี”

เจริญโยธากัมมัฏฐาน

…เจริญโยธากัมมัฏฐาน …

… “ชีวิตคือการทำงานและการทำงานคือการปฏิบัติธรรม” คือคำสอนของหลวงพ่อพุทธทาสแห่งสวนโมกขพลาราม อ.ไชยาจ.สุราษฏร์ธานี …

…พยายามนำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ปรับใช้ให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของตัวเรา เพราะชีวิตต้องดำเนินไปทั้งในทางโลกและทางธรรม เป็นไปเพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านจนกว่าชีวิตจะหาไม่…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔…

อธิษฐานจากจิต

…อธิษฐานจากจิต…

…เจริญสุข เจริญธรรม
กับทุกคำอวยพร
ขอให้สิ่งเหล่านั้นย้อน
กลับไปสู่ท่านทั้งหลาย
บุญใดกุศลใดที่ข้าพเจ้า
ได้บำเพ็ญมา จากอดีตชาติ
และปัจจุบันชาตินี้
ขอให้ทุกท่านจงมีส่วน
ในบุญกุศลนั้น
โดยทั่วกัน
ทุกท่านเทอญ….

..ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…พระอาจารย์เมสันติ์ คมฺภีโร…
…หลวงโด่ง…
…๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔…

เตือนจิตในยามเช้า

…เตือนจิตในยามเช้า…

…การละบาปนั้น บาปมันมาอย่างไร บาปมันเกิดที่จิตใจ ความโกรธ ความโลภ ความหลง เป็นบาป การชำระบาปทั้งหลายนั้นชำระด้วยการปฏิบัติธรรม รักษาศีล เจริญสติภาวนา เพื่อไม่ให้บาปนั้นกำเริบเสิบสาน ไม่ให้มันมีกำลังมากขึ้น แก่กล้าขึ้น ซึ่งหากปล่อยให้ไปตามอำนาจของกิเลสนั้น จะทำให้เดือดร้อนทำลายตัวเราเอง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔…

รำพึงธรรมก่อนรุ่งอรุณ

…รำพึงธรรมก่อนรุ่งอรุณ…

…เวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตนั้นมันสั้นลงทุกวินาทีที่ผ่านเลยไป จงใช้เวลาที่เหลืออยู่นั้นให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเปล่าโดยไร้สาระ ทบทวนใคร่ครวญในสิ่งที่ผ่านมา ว่าเรานั้นได้สร้างได้ทำอะไรมาบ้างแล้ว เรามีความภาคภูมิใจในสิ่งที่เราได้สร้างได้ทำมาแล้วหรือไม่ ชีวิตนี้มีความทรงจำที่ดีเก็บไว้แล้วหรือยัง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔…

รำพึงธรรมในยามเย็น

…รำพึงธรรมในยามเย็น…

…จงใช้เวลาของชีวิตที่เหลืออยู่ มาเรียนรู้ชีวิตที่เป็นจริง…

ทุกสิ่งที่ผ่านมา คือมายาของชีวิต ที่ลิขิตไปตามแรงแห่งตัณหาเป็นโลกมายาของกิเลส “พระไตรลักษณ์คือความเป็นจริงของชีวิต”…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔…

ย้ำเตือนตนบนเส้นทางธรรม

…ย้ำเตือนตนบนเส้นทางธรรม…

…ทุกครั้งที่เสร็จสิ้นภารกิจการสร้างที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์ สร้างวัดหรือบูรณะวัดร้าง ก็จะหยุดพักเก็บตัวปฏิบัติประมาณหนึ่งปี เพื่อใคร่ครวญทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ได้ผ่านมา เพื่อให้เห็นถึงความก้าวหน้าหรือความเสื่อมถอยของภูมิธรรมภูมิปัญญา เพื่อที่จะได้กำหนดบทบาทและแนวทางที่จะก้าวเดินต่อไปในภายภาคหน้า นั้นคือสิ่งที่ได้เคยทำมาและจะทำต่อไป…

๐ จากถิ่นฐาน นานมา สู่ป่ากว้าง
ไปตามทาง ที่ใจ นั้นใฝ่หา
ออกเผชิญ ต่อโลก แห่งมายา
แสวงหา แนวทาง เพื่อสร้างธรรม

อ่านเพิ่มเติม “ย้ำเตือนตนบนเส้นทางธรรม”

ทบทวนเรื่องราว มาเล่าให้ฟัง

…ทบทวนเรื่องราว มาเล่าให้ฟัง…

…ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาปักกรดอยู่ในพื้นที่ของวัดลาดเค้า (ร้าง) สิ่งที่ได้เน้นย้ำกับพระภิกษุที่มาอยู่ช่วยบูรณะวัดร้างคืออย่าทิ้งข้อวัตรปฏิบัติที่เคยทำกันมา บิณฑบาต กวาดลานวัด ทำวัตรสวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตา อุทิศบุญกุศลให้สรรพวิญญาณทั้งหลาย สรรพสัตว์ทั้งหลาย เทวดาทั้งหลาย ตลอดถึงอดีตเจ้าอาวาสทั้งหลายที่เคยอยู่ ณ อาวาสแห่งนี้

…ประกาศเจตนารมณ์แห่งการเข้ามาขออยู่อาศัยในพื้นที่ เพื่อที่จะบูรณะวัดร้างแห่งนี้ให้กลับมาเป็นวัดที่สมบูรณ์ขึ้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมาแล้วนั้น พระภิกษุที่ได้มาเข้ามาอยู่เพื่อช่วยบูรณะวัดร้างได้ปฏิบัติกันมาไม่เคยขาด จึงทำให้การบูรณะวัดร้างเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ดั่งที่ได้เห็นและเป็นอยู่…

อ่านเพิ่มเติม “ทบทวนเรื่องราว มาเล่าให้ฟัง”

รำพึงธรรมหลังตื่นนอน

…รำพึงธรรมหลังตื่นนอน…

…การปฏิบัติธรรมที่ให้เริ่มต้นจากการให้ทานนั้น ก็เพื่อให้เป็นพื้นฐานในการปรับจิต ให้รู้จักคิดเสียสละลดละซึ่งความเห็นแก่ตัว เพื่อให้มีจิตใจโอบอ้อมอารี เอื้อเฟือเผื่อแผ่ มีพรหมวิหาร ๔ เป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต จิตนั้นจะอ่อนโยนลงไม่แข็งกระด้าง เป็นการเสริมสร้างคุณธรรมให้แก่จิต

…แต่ก็ไม่ให้ไปยึดติดในทานบารมีนั้นจนเกินไปจนกลายเป็นทิฐิมานะและอัตตาโดยคิดว่าเราดี เราเด่นกว่าผู้อื่น …“แม้นน้อยนิดด้วยปัจจัย แต่ยิ่งใหญ่ด้วยอานิสงส์ ถ้าจิตจำนงนั้นบริสุทธิ์”

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔…