จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๒๐

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๒๐…

…หลากหลายบทบาทและลีลาของชีวิตสมณะ แต่ก็เป็นไปโดยชอบอันประกอบด้วยจิตที่เป็นกุศลไม่เป็นภัยต่อชีวิต ไม่เป็นพิษต่อผู้อื่น ไม่ฝ่าฝืนพระธรรมวินัยส่วนใครจะมองอย่างไรนั้น มันเป็นเรื่องของปัจเจก ขอให้เรารู้ในสิ่งที่คิดและกิจที่ทำของเราว่าถูกต้องดีงามหรือไม่ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว…

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๒๐”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๙

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๙…

…มีผัสสะ มากมาย กระทบจิต
ทำให้คิด วุ่นวาย และสับสน
จิตเป็นทุกข์ เพราะใจ ไปกังวล
คือเหตุผล เมื่อใจ ได้ไตร่ตรอง

…เมื่อใจทุกข์ จึงมอง ประคองจิต
ดูความคิด ดูจิต ที่เศร้าหมอง
ได้พินิจ ใคร่ครวญ และตริตรอง
และเฝ้ามอง ให้เห็น ความเป็นจริง

…สรรพสิ่ง ล้วนตั้ง อยู่ในหลัก
พระไตรลักษณ์ คือหลัก สรรพสิ่ง
พระไตรลักษณ์ คือหลัก แห่งความจริง
สรรพสิ่ง ไม่เที่ยงแท้ และแน่นอน

…มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับ
เปลี่ยนสลับ กันไป เป็นคำสอน
อนิจจัง ไม่เที่ยงแท้ และแน่นอน
ทุกข์ร้าวรอน เพราะใจ ไปยึดมัน

…ไม่ยอมลด ยอมละ ซึ่งความอยาก
ต้องการมาก ยึดติด ไม่แปรผัน
ไม่อยากสูญ ไม่อยากเสีย อยากได้มัน
ทุกสิ่งนั้น ล้วนเป็น อนัตตา

…นี่เป็นกฎ ธรรมชาติ พระไตรลักษณ์
นี่คือหลัก ของพุทธะ ศาสนา
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ใช้ปัญญา มองให้เห็น ความเป็นจริง

…เข้าใจโลก ก็เห็นธรรม เมื่อนำคิด
ทำให้จิต นั้นสงบ และหยุดนิ่ง
เพราะได้รู้ ได้เห็น ความเป็นจริง
สรรพสิ่ง มันเป็น เช่นนั้นเอง….

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๗ ธันวาคม ๒๕๖๔…

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๘

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๘…

…กวีธรรมส่องนำทาง…

…กวีธรรม นำทาง สร้างชีวิต
กวีธรรม นำจิต นิมิตใหม่
กวีธรรม ส่องนำ กายและใจ
กวีธรรม ทำให้ ใจร่มเย็น…

…กวีธรรม ทำให้ ใจนึกคิด
กวีธรรม ชี้ให้จิต นั้นได้เห็น
กวีธรรม สอนจิต คิดให้เป็น
กวีธรรม ที่ได้เห็น. นั้นส่องทาง

…กวีธรรม นำเรื่องราว มาเล่าสู่
กวีธรรม บอกให้รู้ ถึงแบบอย่าง
กวีธรรม นั้นเตือนใจ ให้ละวาง
กวีธรรม คือแบบอย่าง เส้นทางธรรม

…กวีธรรม นั้นกลั่น มาจากจิต
กวีธรรม คือนิมิต ที่ลึกล้ำ
กวีธรรม ลบล้าง ความมืดดำ
กวีธรรม ชี้นำ ให้ก้าวเดิน…

…กวีธรรม น้อมนำ ให้นึกคิด
กวีธรรม เหมือนมิตร ไม่เก้อเขิน
กวีธรรม ทำให้ ใจเพลิดเพลิน
กวีธรรม ดำเนิน อยู่เรื่อยไป

…กวีธรรม นั้นอยู่ คู่กับโลก
กวีธรรม อำนวยโชค ให้สดใส
กวีธรรม น้อมนำ ซึ่งจิตใจ
กวีธรรม ทำให้ ใจถึงธรรม…

…กวีธรรม ล้ำเลิศ ประเสริฐนัก
กวีธรรม คือที่พัก ผู้บอบช้ำ
กวีธรรม ปลอบใจ ผู้มีกรรม
กวีธรรม ชี้นำ ผู้ทุกข์ทน…

…กวีธรรม ชี้ทาง สว่างจิต
กวีธรรม ช่วยชีวิต ให้หลุดพ้น
กวีธรรม มอบให้ แด่ทุกคน
กวีธรรม สร้างกุศล ธรรมทาน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๖ ธันวาคม ๒๕๖๔…

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๖

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๖…

…ชีวิตเดินไปตามวิบากกรรมที่เคยทำมาในอดีต ส่งผลทั้งในทางดีและทางร้ายทุกสิ่งทุกอย่างนั้นล้วนมีที่มาและมีที่ไปมีเหตุและปัจจัยในการเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไป มีการเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา มิอาจจะตั้งอยู่ได้นานตลอดไปมันเป็นตามกรรมที่ได้ทำมา

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๖”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๖

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๖…

…ชีวิตเดินไปตามวิบากกรรมที่เคยทำมาในอดีต ส่งผลทั้งในทางดีและทางร้ายทุกสิ่งทุกอย่างนั้นล้วนมีที่มาและมีที่ไปมีเหตุและปัจจัยในการเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไป มีการเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา มิอาจจะตั้งอยู่ได้นานตลอดไปมันเป็นตามกรรมที่ได้ทำมา

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๖”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๕

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๕…

…การศึกษาธรรมะและประพฤติปฏิบัติธรรมนั้น เราต้องมีวิจารณญาณอย่าเชื่อทันทีที่ได้ยิน ได้ฟังมาอย่าได้ศรัทธาเพราะยึดติดในตัวบุคคล จงเอาเหตุและผลมาเป็นที่ตั้ง แห่งการคิดและพิจารณาธรรม ว่าควรจะเชื่อหรือจะปฏิเสธ ในสิ่งที่ได้อ่านได้ยินหรือได้ฟังมา

…ดั่งที่เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าเชื่อในทันที เรียกว่างมงาย ถ้าปฏิเสธทันที เรียกว่าเสียโอกาสขาดประโยชน์” ควรพิจารณาไตร่ตรองให้รอบครอบและทดลองปฏิบัติพิสูจน์ ฝึกฝนที่ใจตน ให้เกิดความกระจ่างชัดขึ้นด้วยใจตน ตามเหตุและผลแล้ว จึงควรเชื่อหรือปฏิเสธในสิ่งที่ได้อ่าน ได้ยิน ได้ฟังมา

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๕”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๔

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๔…

…อย่าลุอำนาจแก่ความโกรธเป็นอันขาด เพราะเมื่อความโกรธนั้นเกิดขึ้นแล้วมันจะมืดมิดปิดบังปัญญา คิดแต่จะเอาชนะเพียงอย่างเดียว ทั้งที่จริงแล้วมันกำลังแพ้ตัวเอง แพ้ความโกรธของตัวเองถ้าระงับความโกรธไม่ได้ ใจก็ไม่เป็นสุขเพราะฉะนั้นอย่าเอาความโกรธ มาเป็นอารมณ์มาเป็นตัวของตัวเป็นอันขาดพึงข่มความโกรธ ด้วยการเจริญสติการลดทิฏฐิ การให้อภัย แล้วใจของเรานั้นจะสบาย…

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๔”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๓

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๓…

…เพียงแสงเทียนที่ส่องทาง…

๐ เป็นเพียงเทียน แท่งหนึ่ง ซึ่งส่องแสง
ไม่คิดแข่ง เทียบเคียง พระอาทิตย์
แสงสว่าง เพียงรำไร อยู่น้อยนิด
แด่มวลมิตร ระหว่างทาง ที่ย่างเดิน

๐ เพราะศรัทธา เชื่อมั่น จึงฟันฝ่า
มอบให้มา จากใจ ไม่ห่างเหิน
กวีธรรม นำใจ ให้เพลิดเพลิน
ขอชวนเชิญ มาร่วมสร้าง เส้นทางธรรม

๐ หนึ่งแรงเทียน แสงนั้น อาจจะน้อย
แต่ถ้าร้อย แรงเทียน มีค่าล้ำ
มาร่วมจิต ร่วมคิด และร่วมทำ
กุศลกรรม ให้ชีวิต มีทิศทาง

๐ ความร่วมมือ ร่วมแรง และร่วมใจ
จะทำให้ โลกมี แสงสว่าง
ลบความมืด ความคิด ที่ผิดทาง
เป็นแบบอย่าง ให้เห็น เป็นของจริง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑ ธันวาคม ๒๕๖๔…

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๒

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๒…

…เป็นธรรมดาของทุกชีวิตในโลกนี้ที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคปัญหาเพราะว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่หวังไว้เสมอ ดั่งคำที่กล่าวว่า… “เส้นทางของชีวิตมิได้โรยด้วยกลีบของดอกกุหลาบเสมอไป” แต่ทำอย่างไร เราจะเข้าใจและเข้าไปแก้ไขอุปสรรคปัญหานั้นได้

…“ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากเหตุและดับไปที่เหตุ” เราจึงต้องฝึกขบวนการคิดเพื่อเข้าไปหาเหตุโดยเริ่มจากการฝึกใจให้นิ่งเสียก่อน” นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว “ซึ่งจะทำให้ใจนิ่งได้นั้น มันต้องมีสมาธิและการที่จะมีสมาธิได้นั้นมันต้องมีสติ เราจึงต้องฝึกให้มีสติเสียก่อน ก่อนที่จะทำจิตให้สงบ…

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๒”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๑

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๑…

…วันเวลาที่ผ่านไปทุกขณะนั้นพยายามเจริญสติและสัมปชัญญะให้มากเท่าที่จะทำได้ ตามกำลังความสามารถและโอกาสที่มี พยายามดับสิ่งที่เป็นอกุศลในจิตให้ดับไปโดยรวดเร็ว คอยควบคุมอารมณ์ความรู้สึกไม่ให้ปรุงแต่งไปกับผัสสะสิ่งกระทบทั้งหลาย รักษาจิตไว้ให้เป็นกุศล ตรวจสอบกาย ตรวจสอบจิตตรวจสอบความคิด ตรวจสอบการกระทำทบทวนถึงสิ่งที่ผ่านมาในหนึ่งวัน ว่าเวลาที่ผ่านไปนั้น จิตเราเป็นอย่างไร ใจเราอยู่กับกุศลหรืออกุศลฝ่ายไหนมากกว่ากัน

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๑”