บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๑๐

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๑๐…

…ในยามที่จิตคิดฟุ้งซ่าน การเข้าไปจัดการความฟุ้งซ่านให้ดับลง ต้องใช้การน้อมใจมาดูจิต ดูความคิดทั้งหลายของเรา เอาจิตถามจิต ว่าทำไมต้องคิดต้องปรุงแต่งคิดแล้วได้อะไร คิดแล้วทำได้หรือไม่ สิ่งที่คิดนั้นเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล คิดแล้วมีผลเป็นอย่างไรมีคุณหรือไม่ อะไรเป็นเหตุที่ทำให้คิดเอาจิตถามจิต หาคำตอบที่จิตของเราเองเอาจิตถามจิต จนเห็นที่เกิดของจิตคือเห็นต้นเหตุแห่งความคิด จึงจะเข้าใจในความคิด เข้าใจจิตและเข้าใจในธรรมซึ่งต้องหมั่นทำอยู่อย่างสม่ำเสมอจนเกิดเป็นความเคยชินของจิต เมื่อมีสิ่งมากระทบและทำให้เกิดความคิด ทำให้จิตแปรเปลี่ยนไป ตามดู ตามรู้ ตามเห็น ให้ทันกับสิ่งเหล่านั้นที่เกิดขึ้น

…โดยใช้สติสัมปชัญญะเป็นตัวควบคุมดูแล คุ้มครองจิตนั้น โดยเอาปัจจุบันธรรมทั้งหลายมาเป็นอารมณ์กัมมัฏฐานในการที่จะคิดและพิจารณา เพื่อปรับเข้าหาธรรมดั่งคำที่ว่า รู้กาย รู้ใจ รู้จิต รู้ทันความคิดก็เห็นธรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒ สิงหาคม ๒๕๖๔…

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๙

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๙…

…การฝึกจิตนั้นต้องกระทำอยู่อย่างสม่ำเสมอ ไม่มีเวลาหยุดพักเพราะการเจริญสตินั้นต้องทำในทุกโอกาส เพื่อให้สตินั้นมีกำลังเพิ่มยิ่ง ๆ ขึ้น เพื่อให้เห็นการเกิดดับของสรรพสิ่ง และละวางอารมณ์ที่เป็นอกุศลจิตให้รวดเร็ว ซึ่งสิ่งนั้นต้องอาศัยกำลังของสติสัมปชัญญะและองค์แห่งคุณธรรมเป็นตัวเข้าไปจัดระบบความคิดทั้งหลายของจิตโดยมีสมาธิคือจิตที่สงบนิ่ง เป็นบาทฐานก่อนยกจิตขึ้นสู่การพิจารณาทุกเวลาที่ผ่านไปนั้น จึงเป็นการปฏิบัติธรรม…

…แด่วันหนึ่งที่ผ่านมาและวันเวลาที่เหลืออยู่…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑ สิงหาคม ๒๕๖๔…

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๘

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๘…

…ผู้ที่จะเป็นนักปฏิบัติธรรมนั้น ต้องเป็นผู้ที่ไม่ประมาทขาดสติ ที่เป็นสัมมาสติคือการระลึกรู้ในสิ่งที่ดี เพราะว่าความประมาทที่ขาดสัมมาสตินั้น จะทำให้นักปฏิบัติเห็นผิดไปจากความเป็นจริงคือมีสติ แต่เป็นมิจฉาสติ คือการระลึกรู้ในสิ่งที่ผิดที่ชั่ว ความไม่ประมาทนั้นพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้มีอยู่ ๔ ประการคือ…

๑. ไม่มีความอาฆาตพยาบาทใคร คือการที่ต้องทำให้มีจิตใจเป็นกุศล จิตใจที่ดีงามไม่น้อยใจตนเอง ไม่น้อยใจผู้อื่นไม่โกรธตนเอง ไม่โกรธผู้อื่น อยู่กับความคิด อยู่กับจิตที่เป็นกุศล

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๘”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๗

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๗…

…ในการทำงานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสติสัมปชัญญะและมีสมาธิในการทำงาน เพราะในการทำงานแต่ละอย่างนั้น ย่อมมีอุปสรรคและปัญหาอยู่ตลอดเวลา การที่เรามีสตินั้นจะช่วยให้เราเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นและสามารถที่จะควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้ ทำให้สามารถที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้เสมอเพราะว่าเรามีสมาธิในการทำงานจึงสามารถที่จะควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้ ไม่ตื่นตกใจหรืออารมณ์เสียเมื่อเจอปัญหา ทำให้สามารถที่จะแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๗”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๖

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๖…

“ภิกษุทั้งหลาย! เราประพฤติพรหมจรรย์นี้ มิใช่เพื่อหลอกลวงคน เพื่อให้คนบ่นถึงเพื่อผลคือลาภสักการะและชื่อเสียงเพื่อเป็นเจ้าลัทธิ เพื่อให้คนทั้งหลายรู้จักเราก็หามิได้ แต่ที่จริงแล้วเพื่อความสังวรระวัง เพื่อละกิเลสเพื่อคลายกิเลส และเพื่อดับกิเลสเท่านั้น”

“นยิทํ ภิกฺขเว พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ
ชนกุหนตฺถํ น ชนลปนตฺถํ
น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ
น อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสตฺถํ
น อิติ มํ ชโน ชานาตูติ
อถโข อิทํ ภิกฺขเว พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ
สํวรตฺถํ ปหานตฺถํ วิราคตฺถํ นิโรธตฺถนุติ“”
…พุทธสุภาษิต พรหมจริยสูตร ๒๑/๒๙…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
… ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔…

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕…

…รำพึงธรรมในราตรีกาล…

…เมฆดำปกคลุมทั่วท้องฟ้า
สายลมพัดกระโชกผ่านมา
เม็ดกล้าแห่งพืชพันธุ์เบ่งบาน
รอการเริ่มต้นของชีวิตใหม่
เป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่า
หน้าฝนกำลังจะมาเยือน
ฤดูกาลใหม่กำลังมาเยือน
เปลี่ยนไปตามฤดูกาล…

…กาลเวลาที่ผ่านไป
เก็บเกี่ยวอะไรได้มากมาย
ได้รู้และเข้าใจในชีวิต
เห็นความถูกผิดในความคิด
และสิ่งที่ได้กระทำที่ผ่านมา
ได้รู้ว่าจุดหมายปลายทางนั้นยังไกล
และต้องก้าวเดินต่อไปสู่จุดหมาย…

…ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา
ใต้ร่มเงาหมู่มวลพฤกษา
บนจุดหนึ่งของกาลเวลา
ถามตนเองเสมอว่าแสวงหาสิ่งใด
ทบทวนดูถึงสิ่งที่ผ่านไป
จงรู้ว่าความหวังที่ตั้งไว้
นั้นก้าวไกลถึงไหนแล้ว…

.. ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
… ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔…

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๔

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๔…

…“อันว่าไม้จันทน์นั้น แม้จะแห้งก็ไม่ทิ้งกลิ่น หัสดินก้าวลงสู่สงครามแล้วไม่ทิ้งลีลา อ้อยแม้เข้าสู่หีบยนต์แล้วย่อมไม่ทิ้งรสหวาน บัณฑิตแม้จะประสพกับปัญหาของชีวิตหรือได้รับความทุกข์ยากลำบากสักปานใดก็ไม่ทิ้งธรรม”…

…ชีวิตกับวันเวลาฉันถามตัวเองเสมอว่า วันเวลาที่ผ่านไปนั้นเราได้อะไรจากวันเวลาและคุ้มค่ากับวันเวลาที่ผ่านล่วงเลยไปหรือไม่เพื่อไม่ให้เราหลงกับวัยและเวลาชีวิตที่เหลืออยู่จะได้เร่งสร้างคุณค่าให้กับชีวิต แม้นเพียงสักน้อยนิดก็ยังดีกว่าที่จะไม่ได้ทำอะไรไม่ได้หวังว่าจะต้องได้ในชาตินี้หรือชาติหน้า เพียงแต่ตั้งใจว่าจะทำเรื่อย ๆ ไป ถึงเมื่อไหร่ไปเมื่อนั้นจะไม่สร้างความกดดันให้กับตัวเองเหมือนที่เคยผ่านมา เพราะว่าจะทำให้เกิดอาการเกร็ง เพราะไปเคร่งเกินไปแล้วมันจะทำให้เครียด…

…สารพัด ความคิด จิตมนุษย์
ไม่สิ้นสุด มากมาย หลายเหตุผล
แสวงหา ประโยชน์ ซึ่งส่วนตน
ต่างดิ้นรน ไขว่คว้า มาครอบครอง

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๔”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๓

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๓…

…“กาลามสูตร” อันเป็นหลักแห่งความเชื่อที่สอนไม่ให้เชื่ออย่างงมงาย โดยไม่ใช้ปัญญา พิจารณาให้เห็นจริง ถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ ซึ่งมีหลักอยู่ ๑๐ ประการคือ…

๑. อย่าเชื่อตามที่ฟัง ๆ กันมา
๒. อย่าเชื่อตามที่ทำต่อ ๆ กันมา
๓. อย่าเชื่อตามคำเล่าลือ
๔. อย่าเชื่อโดยอ้างตำรา
๕. อย่าเชื่อโดยนึกเอา
๖. อย่าเชื่อโดยคาดคะเนเอา
๗. อย่าเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
๘. อย่าเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
๙. อย่าเชื่อเพราะรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
๑๐. อย่าเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูอาจารย์ของตน

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๓”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๒

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๒…

“ภิกษุจงเป็นผู้ไม่ประมาท มีสติ มีศีลอันดี จงมีความดำริตั้งมั่นตามรักษาจิตของตนเถิด”

“อปฺปมตฺตา สตีมนฺโต สุสีลา โหถ ภิกฺขโว
สุสมาหิตสงฺกปฺปา สจิตฺตมนุรกฺขถ”
…พุทธสุภาษิต มหาปรินิพพานสูตร ๑๐/๑๒๐…

…การเริ่มต้นของเช้าวันใหม่ เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา จงเจริญสติและสัมปชัญญะให้มีความสมบูรณ์ มีความระลึกรู้และรู้ตัวทั่วพร้อมในกายและจิตของเราตั้งจิตของเราให้เป็นกุสลจิต เพื่อชีวิตในเช้าวันใหม่ เป็นการสร้างเหตุและปัจจัยให้แก่ชีวิตของเรา เพื่อที่จะรับเอาสิ่งที่ดีๆเข้ามาสู่ชีวิต ต้องเริ่มที่จิตของเรา

…จิตของเราเป็นเสมือนเครื่องรับคลื่นสัญญาณ มันมีกำลังที่จะดึงดูดคลื่นสัญญาณทั้งหลายได้ ถ้าจิตของเราเป็นกุศลจิต มันก็จะดูดเอาสิ่งที่ดีๆเข้ามา ในทางกลับกัน ถ้าจิตของเราเป็นอกุศลจิต มันก็จะดึงเอาสิ่งที่เป็นอกุศลเข้ามาสู่จิตของเรา…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๒”

ปฐมบทบันทึกไว้เพื่อความทรงจำ

…ปฐมบทบันทึกไว้เพื่อความทรงจำ…

…เหมือนทุกปีที่ผ่านมา เมื่อถึงฤดูกาลเข้าพรรษา ก็จะเขียนบันทึกความทรงจำตลอดกาลพรรษา โดยจะตั้งชื่อเพื่อเป็นชุด ๆ ไปในแต่ละพรรษา ซึ่งในปี ๒๕๖๔ นี้ใช้ชื่อว่า “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ” เพื่อบันทึกเรื่องราวในแต่ละวันที่ผ่านไปทั้งในเรื่องของทางโลกและทางธรรมเป็นทั้งบทความและบทกวี…

๐ ร้อยเรียงเขียนเรื่องราว
เพื่อบอกกล่าวซึ่งหลักธรรม
เขียนมาเป็นประจำ
ทุกเช้าค่ำตามเวลา

๐ เพียงหวังนำเสนอ
เมื่อได้เจอผู้ใฝ่หา
แลกเปลี่ยนสนทนา
และศึกษาซึ่งหลักธรรม

อ่านเพิ่มเติม “ปฐมบทบันทึกไว้เพื่อความทรงจำ”