เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๗๐

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๗๐…

…ระลึกอยู่เสมอว่า การทำงานคือการปฏิบัติธรรม ทุกอย่างที่ทำลงไปนั้นคือการสร้างบารมี เพื่อให้ใจของเรามีปีติ มีกำลังใจ ไม่เบื่อที่จะทำในสิ่งที่เป็นอยู่ สิ่งสำคัญคือเราต้องสร้างขวัญและกำลังใจให้ตัวเองอยู่ตลอดเวลา อย่าคิดว่ามันเป็นภาระหรือเป็นปัญหา คิดว่าเป็นหน้าที่ที่เราต้องกระทำ เพื่อสงเคราะห์และอนุเคราะห์แก่ผู้คนทั้งหลาย ที่เขามาเพื่อหวังพึ่งเรา

อ่านเพิ่มเติม “เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๗๐”

เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๙

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๙…

…การประพฤติปฏิบัติธรรมนั้น ท่านต้องถามใจของท่านว่า ท่านปรารถนาสิ่งใดในการปฏิบัติธรรมและสิ่งที่ท่านปรารถนานั้นเป็นไปโดยชอบประกอบด้วยกุศลหรือไม่ เพื่อจะได้ไม่หลงทางในการปฏิบัติเพราะว่าการเจริญภาวนานั้นคือการทำให้งอกงามให้เจริญขึ้นพัฒนายิ่งขึ้นไปถ้าเหตุและปัจจัยที่เราตั้งไว้เป็นบุญกุศลผลก็จะออกมา พัฒนาให้บุญกุศลนั้นเพิ่มพูนยิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติม “เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๙”

เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๘

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๘…

…โยธากัมมัฏฐานเป็นการฝึกสติให้เจริญซึ่งกุศลจิต คิดและทำในสิ่งที่ชอบอันประกอบด้วยกุศลเป็นมงคลต่อชีวิต ไม่ผิดซึ่งพระธรรมวินัย เป็นไปเพื่อความเรียบง่ายอาจจะไร้รูปแบบ แต่ไม่ไร้สาระไม่เสียสมณรูป ให้ชาวโลกเขาติเตียนได้

…เพื่อปลดเปลื้องความกังวลใจในสิ่งที่ได้กล่าวไว้รับปากเขาไว้เมื่อเราได้ทำสิ่งนั้นให้มันสำเร็จลุล่วงไป ใจเราจะโปร่ง โล่ง เบามีปีติหล่อเลี้ยงจิต ส่งผลให้ จิตดีกายเด่น ความเจริญในธรรมย่อมบังเกิดขึ้น

อ่านเพิ่มเติม “เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๘”

เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๗

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๗…

….พระพุทธพจน์…..

…เหตุ ๖ ประการเหล่านี้คือ
– การนอนตื่นสาย ๑
– การเสพภรรยาผู้อื่น ๑
– การผูกเวร ๑
– ความเป็นผู้ทำแต่สิ่งอันหาประโยชน์มิได้ ๑
– มิตรชั่ว ๑
– ความเป็นผู้ตระหนี่เหนียวแน่น ๑

ย่อมกำจัดบุรุษเสียจากประโยชน์ที่จะพึงได้พึงถึง…
…(ที.ปาฏิ.๑๘๕ )…

อ่านเพิ่มเติม “เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๗”

เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๖

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๖…

…“ภิกษุทั้งหลาย!เราประพฤติพรหมจรรย์นี้มิใช่เพื่อหลอกลวงคน เพื่อให้คนบ่นถึงเพื่อผลคือลาภสักการะและชื่อเสียงเพื่อเป็นเจ้าลัทธิ เพื่อให้คนทั้งหลายรู้จักเรา ก็หามิได้ แต่ที่แท้จริงแล้วเราประพฤติพรหมจรรย์นี้เพื่อความสังวรระวัง เพื่อละกิเลสเพื่อคลายกิเลส และเพื่อดับกิเลสเท่านั้น”

อ่านเพิ่มเติม “เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๖”

เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๕

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๕…

…ในแต่ละวันที่ผ่านไปนั้น มีเรื่องราวมากมายที่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตที่ทำให้เราคิดและต้องทำ มีผัสสะสิ่งกระทบมากมายให้เรานั้นได้ซึมซับรับรู้ เราจึงควรจะจดจำเพียงสิ่งที่มีประโยชน์และเป็นสาระ ส่วนสิ่งที่เป็นขยะทางความคิดลบมันไปไม่จดจำ ใช้สติใคร่ครวญทบทวนสิ่งผ่านเข้ามา ว่าสิ่งไหนเป็นสาระ สิ่งไหนไม่เป็นสาระพิจารณาให้เห็นคุณ เห็นโทษเห็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ของเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาพิจารณาเข้าสู่ความเป็นกุศลและอกุศล…

อ่านเพิ่มเติม “เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๕”

เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๔

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๔…

…“ผู้ใด มีปัญญาทราม อาศัยทิฏฐิลามก คัดค้านคำสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งมีปกติเป็นธรรม พฤติกรรมของผู้นั้นย่อมเป็นไปเพื่อฆ่าตน เหมือนขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่” “โยสาสนํ อรหนฺตํ อริยานํ ธมฺมชีวินํปฏิกฺโกสติ ทุมฺเมโธ ทิฏฺฐึ นิสฺสาย ปาปกํผลานิ กณฺฏกสฺเสว อตฺตฆญฺญาย ผลฺลติ”
…พุทธสุภาษิต ธรรมบท ๒๕/๓๑…

อ่านเพิ่มเติม “เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๔”

เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๓

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๓…

…ทุกเรื่องราวเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ล้วนแล้วคือบทเรียนของชีวิตเก็บบันทึกไว้ในความทรงจำ น้อมนำมาพิจารณา มองหาที่มาและที่ไปของมัน ทุกอย่างล้วนเกิดจากเหตุและมีปัจจัยเป็นตัวประกอบ ค้นหาให้เห็นซึ่งที่มา ว่าเป็นมาอย่างไรก่อนที่เราจะได้รู้และได้เห็น ว่ามันดำเนินไปเช่นไรและจะจบลงที่ตรงจุดไหน

อ่านเพิ่มเติม “เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๓”

เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๒

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๒…

…วุ่นวายและสับสน
เกิดจากคนไร้ศีลธรรม
ความโลภเข้าครอบงำ
เป็นเคราะห์กรรมของบ้านเมือง

…ย่อยยับและยับย่อย
พวกคนถ่อยต่างแค้นเคือง
สร้างเหตุและสร้างเรื่อง
ให้บ้านเมืองต้องวุ่นวาย

อ่านเพิ่มเติม “เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๒”

เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๑

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๑…

…การปฏิบัติธรรมนั้น ไม่ได้ทำให้เราฉลาดขึ้นกว่าคนอื่น แต่ทำให้เราได้เห็นความโง่ ความหลงผิดในอดีตของเราที่ผ่านมา ยิ่งปฏิบัติก็ทำให้เราได้เห็น ในสิ่งที่เรายังไม่รู้ในสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ ซึ่งที่ผ่านมานั้นเรามักจะคิดว่าเรารู้ถูกต้องและเข้าใจหมดแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่อย่างนั้นเลยเรายังไม่รู้จริง เรายังไม่เข้าใจในความจริงอย่างที่เราเคยคิด ยังมีอีกมากมายที่เรายังไม่รู้และไม่เข้าใจ

อ่านเพิ่มเติม “เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๑”