…โลกและธรรมก้าวเดินไปให้พร้อมกัน…
๐ เมื่อรู้เขา รู้เรา เข้าใจหมด
ก็กำหนด แนวทาง ที่วางไว้
ว่าจะให้ มันเป็น อย่างเช่นไร
กำหนดได้ ถ้าเข้าใจ ในบุคคล
๐ บทกวี ของหลวงพ่อ พุทธทาส
ผู้เป็นปราชญ์ กล่าวไว้ ให้น่าสน
เกี่ยวกับความ เป็นอยู่ ของผู้คน
ทุกแห่งหน ควรตรอง และมองดู
…“เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนดี ที่มีอยู่
เป็นประโยชน์ แก่โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย”…
๐ นี่คือบท กวี ที่กล่าวสอน
เป็นบทกลอน ให้คิด อย่านิ่งเฉย
การมองคน ไม่ควร จะละเลย
จงคุ้นเคย มองคน ที่ผลงาน
๐ องค์รพี บิดา แห่งกฎหมาย
ท่านกล่าวไว้ เป็นกลอน สอนลูกหลาน
เรื่องกินเหล้า เมายา มาเนิ่นนาน
ให้รู้การ รู้ค่า คำว่าคน
…“เอ็งกินเหล้า เมายา ไม่ว่าดอก
แต่อย่าออก นอกทาง ให้เสียผล
เอ็งอย่ากิน สินบาท คาบสินบน
เรามันชน ชั้นปัญญา ตุลาการ”…
๐ อยู่กับโลก ด้วยธรรม นำความคิด
อยู่กับมิตร เอาวาจา มาประสาน
อยู่คนเดียว ระวังจิต คิดเกินการ
จนฟุ้งซ่าน สับสน จนทุกข์ใจ
๐ อยู่อย่างไร ก็ให้ มีสติ
และดำริ ให้จิต นั้นผ่องใส
อย่าวุ่นวาย ตามโลก ที่เปลี่ยนไป
จงดูใจ ดูกาย ให้รู้ทัน
๐ โลกเคลื่อนไหว อย่าหวั่นไหว ไปตามโลก
จะทุกข์โศก เพราะโลก นั้นแปรผัน
กระแสโลก เปลี่ยนไป ทุกคืนวัน
แต่เรานั้น หยุดได้ โดยใช้ธรรม
๐ กระแสธรรม นำมา ซึ่งความสุข
ก้าวพ้นทุกข์ พาใจ ไม่ตกต่ำ
ทำกุศล ให้ถึงพร้อม แล้วน้อมนำ
เดินตามธรรม ขององค์ พระสัมมาฯ….
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๕ เมษายน ๒๕๖๔…