รำพึงธรรมกับสายลมที่พัดผ่าน

…รำพึงธรรมกับสายลมที่พัดผ่าน…

…สังคหวัตถุธรรม ๔ ประการ คือธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจหมู่คณะ และประสานหมู่คณะทั้งหลายให้เกิดความสามัคคีรักใคร่ซึ่งกันและกัน อันเป็นการสงเคราะห์ด้วยธรรมอันได้แก่…

๑. ทาน การให้คือการมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ แบ่งปัน ช่วยเหลือแนะนำกัน

๒. ปิยวาจา มีวาจาเป็นที่รัก กล่าวคำสุภาพไพเราะ วาจาที่สมานสามัคคี

๓. อัตถจริยา ขวนขวายบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ร่วมกัน

๔. สมานัตตา ทำตนเสมอต้นเสมอปลาย เสมอในสุขและทุกข์ วางตัวให้เหมาะสมแก่ฐานะ สถานการณ์ บุคคล เหตุการณ์และสิ่งแวดล้อม ให้ถูกต้องตามธรรม

…ธรรมเหล่านี้เราได้นำมาประพฤติปฏิบัติสมบูรณ์แล้วรึยัง และเราได้แนะนำส่งเสริมผู้อื่นให้นำไปปฏิบัติแล้วหรือยัง การขับเคลื่อนของหมู่คณะและองค์กรนั้น มันต้องก้าวเดินไปด้วยกัน “แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง ก้าวย่างไปด้วยกัน” เพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน สร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคม ปลุกจิตสำนึกแห่งการใฝ่ดีและมีส่วนร่วมในสังคม

…“ทำให้ดู อยู่ให้เห็น สอนให้เป็นแล้วก็ไป” ไม่ติดยึดกับผลงานที่ผ่านมาสอนทุกคนให้รู้คุณค่า ของความเป็นคนสอนให้รู้จักเปิดโลกทัศน์ ชีวทัศน์เพื่อให้เขามีวิสัยทัศน์ที่เปิดกว้างแล้วเขาจะมองทุกอย่างเป็นธรรมะ เป็นกำลังในการขับเคลื่อนกงล้อธรรมจักรต่อไป สืบสายเส้นทางธรรมเป็นกำลังในพุทธศาสนาสืบต่อไป…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๔ เมษายน ๒๕๖๔…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *