…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๔๘…
…ชีวิตนี้มันเป็นของน้อยทุกวินาทีที่ผ่านไป คือการเดินไปสู่ความตายจึงจำเป็นต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ “การทำความเพียรนั้นอย่าได้หลอกตนเอง ทำให้จริงจังตั้งสติกำหนดให้สตินั้นมีกำลังแก่กล้า ทำสติและสัมปชัญญะให้มันแจ้ง” ทาน ศีล ภาวนาศีล สมาธิ ปัญญา การเจริญภาวนานั้นเป็นเครื่องชำระจิตใจให้สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใสที่กระทำนั้นไปมีความหมายเพื่อที่จะกำจัดกิเลสภายในใจของเรา ไม่ใช่ทำไปเพื่อสนองตัณหา ให้ก่อเกิดมานะอัตตาแต่เป็นไปเพื่อความลดละแห่งกิเลสตัณหา ด้วยการพิจารณาดูกาย ดูจิต ดูความคิดของตัวเราเอง ดูตัวเราว่ามีปัญญาที่จะพิจารณาธรรมเป็นไหมและทำอย่างไร เพื่อให้เกิดความเจริญในธรรมเพิ่มขึ้น…
…คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว…
๐ มัวแต่มอง จ้องผิด คนอื่นเขา
แต่ตัวเรา เป็นอย่างไร ไม่เคยรู้
จิตคิดเลว อย่างไร ไม่เคยดู
เรื่องคนอื่น เที่ยวรู้ ไปรอบทิศ…
๐ มัวแต่มอง จ้องผิด คนอื่นเขา
กิเลสเรา เป็นอย่างไร ไม่เคยคิด
ไม่ถูกใจ ก็บอก ว่ามันผิด
ไม่เคยคิด มองหา กิเลสตน
๐ ถ้าถูกใจ ก็ชอบ บอกว่าใช่
ไม่ถูกใจ ก็ไร้ ซึ่งเหตุผล
มีข้ออ้าง มาแก้ ดีใส่ตน
ปัดชั่วพ้น จากตัว เพราะกลัวภัย
๐ ถ้าจะติ ติเพื่อก่อ พอรับได้
จะนำไป ปรับปรุง และแก้ไข
แต่ถ้าติ เพื่อทำลาย ไม่ใส่ใจ
ไม่เก็บไว้ รกสมอง ของไม่ดี
๐ กิเลสเรา มากมาย เกินจะนับ
ยังไปรับ กิเลสเขา เอาทุกที่
จ้องจับผิด กิเลสเขา ว่าเราดี
กลับทวี เพิ่มกิเลส มาใส่ตัว
๐ จงใคร่ครวญ พินิจ และศึกษา
อย่านำพา ดวงจิต ไปคิดชั่ว
เตือนสติ เตือนตน อย่าเมามัว
อย่าแก้ตัว จงแก้ไข ให้เร็วพลัน
๐ เพราะคนดี นั้นชอบ การแก้ไข
คนจัญไร แก้ตัว เพราะโมหัน
ติเพื่อก่อ อย่าทำลาย ให้ร้ายกัน
มาสร้างสรรค์ กันดีกว่า อย่าทำลาย
๐ ไม่มีใคร รู้ซึ้ง เท่าหนึ่งจิต
สิ่งที่คิด ที่ทำ ที่มุ่งหมาย
ความดีชั่ว อยู่กับตัว จนวันตาย
บทสุดท้าย ของชีวิต โปรดคิดดู…
…ขอความสุขสวัสดี จงมีแด่ผู้ใฝ่ธรรม…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๔…