…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๙๕…
…ทบทวนถึงทุกสิ่งทุกอย่างตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เห็นความก้าวหน้าและความเสื่อมถอย ในหลายสิ่งหลายอย่าง วิเคราะห์หาเหตุและผลที่ทำให้เป็นไปอย่างนั้นนำมาหาข้อสรุปเพื่อจะกำหนดทิศทางที่จะก้าวเดินไปด้วยกัน ของหมู่คณะและองค์กรที่มีส่วนร่วม
…พิจารณาถึงหัวข้อธรรมบทหนึ่ง ซึ่งเคยได้ศึกษาและได้นำมาปฏิบัติ หัวข้อธรรมนั้นคือ สังคหวัตถุธรรม ๔ ประการ คือธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจหมู่คณะ และประสานหมู่คณะทั้งหลายให้เกิดความสามัคคีรักใคร่ซึ่งกันและกัน อันเป็นการสงเคราะห์ด้วยธรรม อันได้แก่…
๑. ทาน… การให้คือการมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เสียสละ แบ่งปัน ช่วยเหลือแนะนำกัน
๒. ปิยวาจา… มีวาจาเป็นที่รัก กล่าวคำสุภาพไพเราะ วาจาที่สมานสามัคคี
๓. อัตถจริยา… ขวนขวายบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ร่วมกัน
๔. สมานัตตา… ทำตนเสมอต้นเสมอปลายเสมอในสุขและทุกข์ วางตัวให้เหมาะสมแก่ฐานะ สถานการณ์ บุคคล เหตุการณ์และสิ่งแวดล้อม ให้ถูกต้องตามธรรม
…ธรรมเหล่านี้เราได้นำมาประพฤติปฏิบัติสมบูรณ์แล้วหรือยัง และเราได้แนะนำส่งเสริมผู้อื่นให้นำไปปฏิบัติแล้วหรือยัง การขับเคลื่อนของหมู่คณะและองค์กรนั้น มันต้องก้าวเดินไปด้วยกัน “แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่างก้าวย่างไปด้วยกัน” เพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านสร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคมปลุกจิตสำนึกแห่งการใฝ่ดีและมีส่วนร่วมในสังคม “ทำให้ดู อยู่ให้เห็น สอนให้เป็นแล้วก็ปล่อย” ไม่ติดยึดกับผลงานที่ผ่านมาสอนทุกคนให้รู้คุณค่าของความเป็นคนสอนให้รู้จักเปิดโลกทัศน์ ชีวทัศน์ เพื่อให้เขามีวิสัยทัศน์เปิดกว้าง แล้วเขาจะมองทุกอย่างเป็นธรรมะ เป็นกำลังในการขับเคลื่อนกงล้อธรรมจักรต่อไป สืบสายเส้นทางธรรมเป็นกำลังในบวรพุทธศาสนาสืบต่อไป…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔…