…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๘๒…
…ช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้ สภาพดินฟ้าอากาศไม่เป็นใจ อากาศร้อนอบอ้าวมีลมร้อน จิตเกิดความกังวลและปฏิฆะต่อสภาพดินฟ้าอากาศ สติระลึกได้ทันเห็นการเกิดของอารมณ์ความรู้สึกเจาะลึกเห็นการเกิดของอารมณ์ปฏิฆะและปลิโพธนั้นพิจารณาธรรมตามสภาวะเกิดความรู้ ความเข้าใจในธรรม เข้าใจในสภาพของดินฟ้าอากาศว่า “มันเป็นเช่นนั้นเอง”
…สิ่งที่กังวลนั้นคือ ช่วงนี้เป็นปลายฤดูร้อน ย่อมจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้นได้ง่าย ซึ่งจะทำให้เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสงฆ์ความกังวลใจจึงเกิดขึ้น แต่ทุกอย่างนั้นย่อมเกิดขึ้นได้ เพราะความไม่เที่ยงแท้แน่นอน สภาพของดินฟ้าอากาศนั้นเราไม่สามารถจะไปกำหนดได้ มันย่อมเป็นไปตามเหตุและปัจจัยของธรรมชาติทั้งหลาย เหตุผลง่ายๆแต่เรามองข้ามไปเผลอสติไม่ได้พิจารณา เรากลับเอาตัณหาความต้องการของเรามาเป็นอารมณ์มันก็เลยทำให้เกิดเป็นความทุกข์ใจ
…เมื่อเราระลึกได้ รู้เท่าทัน ความทุกข์อันนั้นก็สลายไป จิตใจปลอดโปร่งโล่งเบาไม่หนักอกหนักใจไร้ความกังวลเพราะเราวางอารมณ์นั้นได้แล้ว ไม่แบกไม่ถือ เลยไม่หนัก “ธรรมทั้งหลายเกิดจากเหตุ..ย่อมดับไปที่เหตุ” จิตเห็นจริงตามธรรมที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ใจเกิดสภาวะปีติ ซาบซึ้งในพระธรรมเชื่อมั่นศรัทธาในธรรมะของพระพุทธองค์เชื่อมั่นในพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพระธรรมคำสอน ตามเหตุและผลเมื่อได้พิจารณา ย่อมนำมาซึ่งความงอกงามเจริญในธรรม…
…ขอบคุณอากาศที่ร้อนของเดือนพฤษภาคม ขอบคุณอารมณ์ปฏิฆะทั้งหลายที่ได้บังเกิดขึ้น ขอบคุณพระธรรม ที่ทำให้อารมณ์ทั้งหลายดับลง…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕…