ปรารภธรรมในยามเย็น

…ปรารภธรรมในยามเย็น…

…ความรู้ในเรื่องทางโลกนั้นเป็นการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องภายนอกกายและจิตของเรา ส่วนความรู้ในทางธรรมนั้นศึกษาค้นหาภายในตัวเรา เกี่ยวกับกายและจิต คือเรื่องความคิดและการกระทำของตัวเราเอง เพื่อให้เข้าใจกายและจิตเข้าใจความคิด ความรู้สึกและการกระทำของตัวเรา แยกแยะในสิ่งที่เป็นกุศลและความเป็นอกุศล รู้จักข่มจิตข่มใจ ควบคุมความคิดและจิตไม่ให้เป็นอกุศล ด้วยองค์แห่งคุณธรรมคือความมี “หิริและโอตตัปปะคือความละอายและเกรงกลัวต่อบาป” ด้วยการมีสติและสัมปชัญญะที่เป็นฝ่ายกุศลธรรม

…เอาการปฏิบัติของครูบาอาจารย์มาเป็นแบบอย่าง มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติโดยปรับใช้ให้เข้ากับตัวเราตามจังหวะและโอกาส เวลา สถานที่และบุคคลที่พึงจะกระทำได้ ใช้เวลาที่ผ่านไปนั้นให้เกิดประโยชน์แก่ตนและประโยชน์ต่อส่วนรวมเพราะการทำงานคือการปฏิบัติธรรม…

๐ สายลม โอบกอด เมฆหมอก
เหย้าหยอก อยู่บน ท้องฟ้า
เคลื่อนคล้อย ลอยไหล ไปมา
เริงร่า ท้าทาย แสงดาว

๐ ใบไม้ ต้องลม แกว่งไกว
สั่นไหว ท่ามกลาง ลมหนาว
คล้ายจะ บอกถึง เรื่องราว
ส่งข่าว ถึงใคร บางคน

๐ สายลม ในคืน เหน็บหนาว
บอกกล่าว ถึงความ สับสน
ของผู้ ที่ยัง ทุกข์ทน
บนหน ทางที่ ท้าทาย

๐ เมฆน้อย ลอยไหล ไปมา
ท้องฟ้า ไร้เดือน ส่องฉาย
มีเพียง แสงดาว พร่างพราย
มากมาย ทั่วท้อง นภา

๐ ตื่นมา มองฟ้า มองดาว
เรื่องราว แห่งการ ค้นหา
จุดหนึ่ง ซึ่งกาล เวลา
ตื่นมา เพื่อบัน ทึกธรรม

๐ เรียบเรียง ลิขิต อักษร
กาพย์กลอน กวี ชี้นำ
บทความ ธรรมะ เตือนย้ำ
กระทำ ในสิ่ง ที่ควร

๐ ส่งเสริม เติมต่อ ศรัทธา
รักษา ความดี มีส่วน
เรียงร้อย ถ้อยคำ เชิญชวน
ทั้งมวล ด้วยความ หวังดี

๐ เอาธรรม นั้นมา ขยาย
มุ่งหมาย เพื่อจะ นำชี้
ความจริง ในสิ่ง ที่มี
โลกนี้ อยู่ได้ ด้วยธรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๕…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *