เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๑

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๑…

…ไม่เคยยึดติดอยู่กับผลงานหรือสถานที่ เพียงทำหน้าที่ให้เสร็จสมบูรณ์แล้วจากไป ทิ้งไว้และเก็บไปเพียงความทรงจำที่ดีงาม ผ่านมาแล้วก็จากไป อาจจะหวนมาใหม่เมื่อถึงกาลเวลา ชีวิตที่ผ่านมาจึงคล้ายกับสายลมที่พัดผ่านกาลเวลา

…มาเพื่อเติมเต็มในสิ่งที่ได้ขาดหายไปนั้นคือความมั่นใจในตนเองของผู้คนที่เขาขาดความเชื่อมั่น ซึ่งทุกคนนั้นมีพลังความสามารถอยู่ในตัวเองกันทุกคน เพียงแต่บางครั้งนำมาใช้ไม่เป็น จึงต้องหาที่พึ่งทางใจพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคล ครูบาอาจารย์เพื่อเพิ่มความมั่นใจและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ตนและสิ่งที่จะเสริมศรัทธา ความเชื่อมั่นให้แก่เขาได้นั้น มันต้องเป็นสิ่งที่จับต้องได้และเห็นได้ด้วยตาเนื้อ เขาจึงจะเชื่อและศรัทธา

…ทำให้ในบางครั้งจึงจำเป็นต้องใช้พิธีกรรมและวัตถุมงคลเป็นตัวนำ เอามาใช้เป็นอุบายธรรมในการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เขา เพราะการให้ธรรมะล้วนๆนั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเห็นผลได้ในทันที่ มันยังเป็นเพียงรูปธรรม ต้องนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมเสียก่อน จึงจะเห็นผลและบุคคลนั้นต้องมีพื้นฐานในทางธรรมมาก่อนด้วย จึงจะเข้าใจและง่ายต่อการแสดงธรรมวัตถุมงคลและพิธีกรรมจึงเป็นเบื้องต้นที่จะทำให้คนนั้นสนใจศรัทธาและเข้าหา

…จึงเป็นสิ่งที่ทิ้งไม่ได้จำเป็นต้องมีและต้องทำแต่ต้องไม่เข้าไปยึดติดจนกลายเป็นความงมงายเพราะยังไม่ใช้ที่สุดของการปฏิบัติธรรม เป็นเพียงกุศโลบายธรรม ที่ใช้ในการรักษาโรคอุปาทานให้แก่ผู้ที่ยังหลงติดอยู่เพราะต้องการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ญาติโยม สร้างความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวของเขาเองและศรัทธาในบุญกุศลให้แก่เขา เพราะว่าศรัทธานั้นคือบ่อเกิดแห่งความสำเร็จในทุกสิ่ง แม้แต่ มรรคผล นิพพานก็ต้องส่งผ่านด้วยพลังแห่งศรัทธา…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑ มิถุนายน ๒๕๖๕…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *