รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๙๖

…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๙๖…

…บอกกับตนเองเสมอว่า อย่าให้วันเวลาของชีวิตผ่านไปโดยไร้ค่า เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ และเป็นโทษต่อชีวิตของเราเลยทุกสิ่งทุกอย่างเรากำหนดขึ้นมาได้ด้วยตัวของเราเอง คือการกระทำที่เรียกว่ากรรมของเราในวันนี้

…ซึ่งพรุ่งนี้ก็จะกลายเป็นอดีตไปแล้ว ยอมรับในความเป็นจริงของสรรพสิ่งที่เผชิญอยู่ รู้ตนรู้ประมาณ รู้กาลเวลา ว่าเราควรจะปรารถนาได้ในสิ่งใด เพียงใดที่เราคิดว่ามันไม่สำเร็จไม่สมปรารถนา ก็เพราะว่าเราไม่ได้สร้างเหตุและปัจจัย อาจจะเป็นการมุ่งหวังที่มากเกินไปเกินประมาณกับเหตุและปัจจัยที่เราได้กระทำไว้ในอดีตที่ผ่านมา

…แต่ถ้าเรารู้ตน รู้ประมาณ รู้กาล รู้โอกาส และได้ทำหน้าที่สร้างเหตุและปัจจัยให้สมบูรณ์ในวันนี้ สิ่งที่เรามุ่งหวังตั้งใจไว้คงจะไม่ไกลเกินปรารถนา

…”อย่ามัวหลงติดอยู่กับความคิด ซึ่งเป็นเพียงจินตนาการ เป็นเพียงนามธรรมที่จับต้องมิได้จงเอาความคิดนั้นมาแปรเปลี่ยนเป็นการกระทำ ทำให้เป็นรูปธรรมที่จับต้องและเห็นได้” อย่าได้กระทำเพียงน้อยนิดแล้วคิดหวังผลที่ยิ่งใหญ่ เพราะจะเป็นการค้ากำไรเกินควรและมันจะสำเร็จได้ยาก ต้องใช้เวลาในการสะสมสั่งสมกำลังของเหตุและปัจจัยอีกยาวนาน

…ทุกวันของชีวิต เมื่อคิดดีและทำดี ก็เป็นวันที่เป็นมงคลต่อชีวิตของเรา ไม่มีคำอวยพรอันใด ที่จะประเสริฐล้ำเลิศไปยิ่งกว่าการที่เราได้สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้แก่ชีวิตของเราเพราะคำพรนั้น คือคำชี้แนะแนวทางที่เป็นกุศลให้เราประพฤติปฏิบัติ เพื่อจะให้ชีวิตของเราจะได้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ไปในทำนองคลองธรรมอันประกอบด้วยกุศลเป็นที่ตั้ง ซึ่งจะทำให้สมหวังดั่งที่ใจของท่านปรารถนาตั้งไว้…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๖ มิถุนายน ๒๕๖๕…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *