ระลึกถึงธรรมคำสอนของหลวงปู่เฟื่อง โชติโก แห่งวัดธรรมสถิต

…ระลึกถึงธรรมคำสอนของหลวงปู่เฟื่อง โชติโก แห่งวัดธรรมสถิต จ.ระยอง ที่เรียบง่าย แต่ได้สาระจึงขอนำสาระธรรมคำสอนของท่านมาเผยแผ่เป็นธรรมทาน

…สาระธรรมคำสอนของหลวงปู่เฟื่อง โชติโก… “เป็นตัวอย่างในการวางตัวของพระกับฆราวาส”

…การวางตัวของพระต่อฆราวาสญาติโยมที่มาเกี่ยวข้องเป็นเรื่องละเอียดมากท่านพ่อเคยพูดอยู่เสมอกับพระลูกศิษย์ว่า

“จำไว้นะ ไม่มีใครจ้างให้เราบวช เราไม่ได้บวชเพื่อเป็นขี้ข้าของใคร”

แต่ถ้าพระองค์ใดมาบ่นกับท่านพ่อว่า โยมที่อยู่ประจำที่วัดไม่ยอมทำตามที่ท่านขอไว้ ท่านพ่อจะย้อนถามทันทีว่า “ท่านบวชมาเพื่อให้เขารับใช้หรือ ความเป็นอยู่ของเราก็อาศัยเขาเพราะฉะนั้นเราอย่าทำอะไรที่จะต้องหนักที่เขา”

“ถึงเขาจะปวารณา เราอย่าเป็นพระขี้ขอ ผมเองตั้งแต่บวชมา ถึงจะมีคนปวารณา ผมไม่เคยขออะไรที่เขาจะต้องออกไปซื้อ ได้ปัจจัยมาผมก็ทำบุญไป ไม่เคยซื้ออะไรเก็บไว้เป็นส่วนตัวนอกจากหนังสือธรรมะ”

“พระเราถ้ากินข้าวของชาวบ้านแต่ไม่ตั้งใจปฏิบัติให้สมกับที่เขาใส่บาตรเรา ชาติหน้า เรามีหวังเกิดมาเป็นควายใช้หนี้เขา”

“พระอาจารย์เฟื่อง โชติโก” วัดธรรมสถิต จ.ระยอง… หลวงปู่ท่านใช้ภาษาที่เรียบง่าย แต่ได้ใจความ ถ้าผู้ฟังนั้นได้คิดและพิจารณาตามที่ท่านได้กล่าวสอนไว้ จึงขอยกธรรมคำสอนของท่าน นำมาเป็นข้อคิดสะกิดเตือนใจแก่เหล่าสมณะทั้งหลายให้พึงสังวรในความเป็นสมณะ…

…สรรพสิ่งตั้งอยู่ในพระไตรลักษณ์…

๐ มองโลก อย่างเที่ยงธรรม
แล้วจงนำ มาขบคิด
เตือนใจ และเตือนจิต
ระลึกรู้ เมื่อกระทำ

๐ รู้เห็น ความเป็นจริง
มองทุกสิ่ง ว่าเป็นกรรม
เกิดจาก สิ่งที่ทำ
จึงเป็นผล ที่ตามมา

๐ กรรมชั่ว นั้นส่งผล
ให้ทุกข์ทน เวทนา
กรรมดี มีเมตตา
นำให้พบ ซึ่งสิ่งดี

๐ ทุกอย่าง เกิดจากเหตุ
ถ้าสังเกต ตามวิธี
เอาธรรม มานำชี้
ให้รู้เหตุ ที่เกิดมา

๐ รู้เห็น การเกิดดับ
ที่สลับ ทุกเวลา
ตามดู ให้รู้ว่า
เหตุและผล ที่เป็นไป

๐ ตามกฎ พระไตรลักษณ์
นั้นคือหลัก อย่าสงสัย
ทุกอย่าง ที่เป็นไป
นั้นคือกฎ พระไตรลักษณ์

๐ ชีวิต อนิจจัง
และทุกขัง ต้องรู้จัก
ตั้งอยู่ ไม่นานนัก
เพราะมันเป็น อนัตตา

๐ ยึดถือ และยึดติด
ทำให้จิต นั้นห่วงหา
วุ่นวาย อยู่เรื่อยมา
ก็เพราะหลง ไม่รู้จริง

๐ อัตตา และมานะ
ไม่ยอมละ ในทุกสิ่ง
ยึดถือ ว่าเป็นจริง
ไปยึดติด ในอัตตา

๐”ตัวกู และของกู “
เมื่อไม่รู้ ก่อปัญหา
ยึดถือ กันเรื่อยมา
ก็เพราะเหตุ ไม่เข้าใจ

๐ ไม่เห็น กายและจิต
จึงไม่คิด จะแก้ไข
ปล่อยให้ มันเป็นไป
จึงต้องทุกข์ กันเรื่อยมา

๐ อยากให้ ใจสงบ
ไม่ต้องพบ ความโศกา
ก็ต้อง ภาวนา
ให้รู้แจ้ง และเห็นจริง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๕…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *