ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๑๙

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๑๙…

“เรียบง่าย ไร้รูปแบบ แต่ไม่ไร้สาระ”

…บางครั้งจึงเกิดปัญหาแก่ลูกศิษย์ผู้ที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจ แล้วเอาไปกระทำตาม คืออยากจะทำอะไรตามที่ใจของตนปรารถนา แล้วบอกว่าเป็นการไม่ยึดติดในรูปแบบซึ่งมันเป็นความเห็นและการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะสิ่งนั้นเกิดมาจากความขี้เกียจ ความมักง่ายไม่ได้เกิดจากความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่เป็นไปเพื่อสนองตัณหา ความอยากกระทำของตนเอง สิ่งนั้นมันไม่ใช่การปล่อยวางแต่มันเป็นการทอดทิ้งธุระ คือการละเลยไม่ทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่มิชอบเพราะไม่ประกอบด้วยกุศลจิตเป็นพื้นฐานในการคิดและการกระทำ…

…รอนแรม มายาวนาน
ก้าวเดินผ่าน กาลเวลา
เหน็ดเหนื่อย และเมื่อยล้า
แสวงหา สัจธรรม

…หมู่มิตร และผองเพื่อน
คอยย้ำเตือน ความทรงจำ
เป็นครู ผู้ชี้นำ
ให้กระทำ สิ่งดีงาม

…ร่วมแรง และร่วมใจ
ก้าวกันไป ไม่เกรงขาม
ไม่ละ พยายาม
ก้าวเดินตาม ครูอาจารย์

…สั่งสม บารมี
สร้างสิ่งดี ทุกสถาน
เผื่อแผ่ และเจือจาน
สร้างผลงาน ฝากแผ่นดิน

…นี่คือ คำสั่งสอน
แต่กาลก่อน ที่ได้ยิน
มีค่า กว่าทรัพย์สิน
ช่วยประทิน ภูมิปัญญา

…ชีวิต ของมนุษย์
ต้องสิ้นสุด ตามเวลา
ชีวิต ที่ผ่านมา
สร้างคุณค่า แล้วหรือยัง

…คุณค่า ของชีวิต
คือความคิด ความมุ่งหวัง
ทำตาม คำสอนสั่ง
รวมพลัง สร้างความดี

…มาเถิด มวลหมู่มิตร
มารวมจิต มิตรไมตรี
ทำตน เป็นคนดี
เพื่อโลกนี้ ให้สวยงาม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒ สิงหาคม ๒๕๖๕…