ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๓๘

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๓๘…

“บทสรุปมิได้อยู่ที่ความคิดหรือคำพูด แต่พิสูจน์ด้วยการกระทำ” เพราะเพียงแต่คิดและพูดนั้น มันยังไม่เห็นผลที่เป็นรูปธรรม เราจึงต้องนำความคิดคำพูดนั้นมาปฏิบัติ หลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ด้วยการปฏิบัติ จึงจะเห็นผลเพราะว่ามันเป็น “ปัตจัตตัง” และก่อนที่เราจะหวังในคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่นั้น ท่านจงถามตัวท่านเองเสียก่อนว่า สติสัมปชัญญะของเรานั้น มีกำลังเพียงพอแล้วหรือยังมีสติเต็มรอบแล้วหรือยัง ไม่มีใครรู้ซึ้งเท่าหนึ่งจิต ขอเพียงเราคิดและพิจารณา…

…ทำให้ดู อยู่ให้เห็น เป็นตัวอย่าง
เป็นแนวทาง วางไว้ ให้ศึกษา
ตามสติ กำลัง และเวลา
ผลออกมา อย่างไร อย่าไปแคร์

…ทำหน้าที่ ของตน ให้ถูกต้อง
เปลี่ยนมุมมอง ความคิด จิตเผื่อแผ่
รักษาจิต รักษาใจ คอยดูแล
และหมั่นแก้ สิ่งผิด ไม่คิดทำ

…มีสติ ระลึกรู้ อยู่ทั่วพร้อม
และไม่น้อม นำจิต คิดใฝ่ต่ำ
สิ่งไม่ดี ทั้งหลาย อย่าไปทำ
อย่าถลำ ในทางชั่ว ด้วยมัวเมา

…จงมีความ ละอายใจ ในสิ่งผิด
ไม่ควรคิด ปรุงแต่ง อย่างโง่เขลา
ทำร่างกาย จิตใจ ให้โล่งเบา
จงเก็บเอา แต่สิ่งดี ที่มีคุณ

…จงภูมิใจ ในสิ่งดี ที่ได้สร้าง
บนหนทาง ผ่านมา ได้เกื้อหนุน
จงมีใจ เมตตา เกื้อการุณ
จงสร้างบุญ สิ่งกุศล บนหนทาง

…ทำชีวิต วันนี้ ให้มีค่า
วันข้างหน้า อาจไม่มี ที่จะสร้าง
ชีวิตนี้ อาจไม่ยาว อย่างที่วาง
จงรีบสร้าง รีบทำ กรรมที่ดี

…สร้างคุณค่า ราคา ให้ชีวิต
นั่นคือกิจ ที่ต้องทำ ในวันนี้
บุญกุศล คือหนทาง สร้างความดี
ชีวิตนี้ คุณมี แล้วหรือยัง

…จงทบทวน ชีวิต ที่ผ่านมา
สร้างคุณค่า อะไร ไว้เบื้องหลัง
สิ่งเหล่านี้ คุณนั้นมี แล้วหรือยัง
มองกลับหลัง ดูว่าตรง หรือหลงทาง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๕…