ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๖๑

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๖๑…

…เดินไปในเส้นทางธรรม พยายามที่จะดำเนินชีวิตไปตามพระธรรมเดินตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์เท่าที่จะทำได้ ตามกำลังสติปัญญาและบุญกุศลของเรา ไม่ใช่เป็นการเห็นแก่ตัว แต่เราต้องเอาตัวของเราให้รอดเสียก่อน ก่อนที่เราจะไปช่วยผู้อื่น ก่อนที่จะไปสอน ไปแนะนำผู้อื่นต้องรู้ ต้องเข้าใจและทำได้ ให้รู้จริง

…เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการแนะนำสั่งสอนเขา ต้องฝึกหัดปฏิบัติที่ตัวเราให้เกิดความกระจ่างชัดในสภาวธรรมทั้งหลาย ทำความรู้ความเข้าใจของเรานั้น ให้ถูกต้องสอดคล้องในหลักธรรม ก่อนจะนำไปเผยแผ่แก่คนทั้งหลาย…

…บทสุดท้ายสรุปได้ที่กายจิต…

๐ วันเวลา ผ่านไป ไม่หยุดนิ่ง
สรรพสิ่ง เกิดดับ และลับหาย
ผ่านเรื่องราว หลายหลาก และมากมาย
บทสุดท้าย งานเลี้ยง ย่อมเลิกรา

๐ ชีวิตเรา มีทั้งเศร้า และทั้งสุข
บางครั้งทุกข์ เพราะใจ นั้นใฝ่หา
หลงผิดไป เพราะกิเลส และอัตตา
มีตัณหา ความอยาก ที่มากมาย

๐ เมื่อพบทุกข์ ควรหันมา เข้าหาธรรม
เพื่อจะนำ จิตสู้ สู่ความหมาย
เพื่อวางจิต วางใจ ให้ผ่อนคลาย
จิตสบาย กายสุข เพราะทุกข์จาง

๐ เมื่อจิตโปร่ง โล่งเบา เอาจิตรู้
และตามดู จิตนั้น อยู่มิห่าง
เมื่อเห็นกาย เห็นจิต ก็เห็นทาง
เมื่อจิตว่าง ก็เห็นธรรม กำหนดไป

๐ รู้อะไร ก็ไม่สู้ รู้กายจิต
รู้ความคิด ของตน ตั้งต้นใหม่
มาดูกาย มาดูจิต มาดูใจ
ทำอะไร คิดอะไร ให้รู้ทัน

๐ มีสติ ระลึกรู้ อยู่ทั่วพร้อม
แล้วก็น้อม นำจิต คิดสร้างสรรค์
อยู่กับธรรม ให้รู้ ปัจจุบัน
เมื่อรู้ทัน ก็ไม่หลง มั่นคงไป

๐ จงศรัทธา ในความดี ที่มีอยู่
และเรียนรู้ พัฒนา หาสิ่งใหม่
เพื่อให้ธรรม ก้าวหน้า ยิ่งขึ้นไป
แล้วจะได้ พบสุข ไม่ทุกข์ทน

๐ สุขในธรรม ล้ำค่า หาใดเปรียบ
ไม่อาจเทียบ กับสุขใด ในทุกหน
เป็นความสุข ที่รู้ได้ เฉพาะตน
ต้องฝึกฝน ภาวนา หาให้เจอ…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
… รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๔ กันยายน ๒๕๖๕…