…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๖๙…
…ชีวิตเคยผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านเรื่องราวหลายหลากมามากมายดีและชั่วล้วนแล้วเคยกระทำมาสุขทุกข์ด้วยกิเลสตัณหาเคยพบพานก้าวเดินย่างผ่านบนโลกธรรมทั้งแปดประการ ลาภ ยศ สรรเสริญสุข ทำให้เราลุ่มหลงมัวเมา เสื่อมยศเสื่อมลาภ นินทา ทุกข์ ทำให้เราเศร้าอนิจจา…โลกนี้มันเป็นเช่นนั้นเอง…
๐ อยู่กับโลก ด้วยธรรม นำความคิด
ปรับชีวิต เข้ากับธรรม นำเหตุผล
มีสติ ระลึกทั่ว ทั้งตัวตน
วิญญูชน ควรที่ พึงกระทำ
๐ พึงพอใจ ในสิ่ง ที่ตนมี
ความพอดี พอเพียง มาหนุนค้ำ
ไม่ปล่อยใจ ให้ความโลภ เข้าครอบงำ
สิ่งที่ทำ สิ่งที่ได้ ใจเพียงพอ
๐ ทำหน้าที่ ของตน ให้เต็มที่
อย่าได้มี ความน้อยใจ ไม่ย่อท้อ
อย่าเพียงหวัง โชคชะตา ตั้งหน้ารอ
เพียงแต่ขอ แต่ไม่ทำ กรรมของคน
๐ เพียงหวังพึ่ง เทวดา ครูอาจารย์
อยากให้ท่าน มาช่วย อำนวยผล
นั่งงอมือ งอเท้า ไม่ดิ้นรน
รอกุศล จากเทวา ครูอาจารย์
๐ ความสำเร็จ จะเกิดได้ ต้องหมายมั่น
ต้องช่วยกัน ทำกิจ คิดประสาน
ทั้งภายนอก และภายใน ให้ทันการ
ผลของงาน นั้นออกมา น่าพอใจ
๐ ตนเองนั้น ต้องช่วย ตนเองก่อน
บุญจะย้อน กลับมา หาเราใหม่
บารมี ครูอาจารย์ ท่านให้ไป
ส่งผลให้ ได้พบ ประสพดี
๐ ประสพสุข สำเร็จ และเสร็จกิจ
นำชีวิต ก้าวไป ได้ถูกที่
ทั้งทางโลก และทางธรรม นำชีวี
ก็จะมี แต่ความสุข ไม่ทุกข์เอย…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๒ กันยายน ๒๕๖๕…