วัฏฏะสงสาร การเวียนว่ายในวังวน

…วัฏฏะสงสาร การเวียนว่ายในวังวน…

๐ ทุกชีวิต ในโลกนี้ ที่ได้เห็น
มันก็เป็น เช่นนั้น กันทุกหน
ล้วนเกิดแก่ เจ็บตาย ในวังวน
หนี้ไม่พ้น ล้วนพบ ประสพกัน

๐ อนิจจา ชีวิต คิดว่าเที่ยง
จิตลำเอียง เพราะใจ นั้นใฝ่หา
ประกอบด้วย กิเลส และอัตตา
จึงนำพา ชีวิต ให้ผิดทาง

๐ เพราะไปหลง ยึดติด ในโลกธรรม
จึงก่อกรรม ทำเวร ไม่เว้นว่าง
อยากจะมี อยากจะได้ ในทุกทาง
จึงออกห่าง ทางธรรม กรรมของคน

๐ มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับ
หมุนสลับ กันไป ทุกแห่งหน
เพราะว่ายัง เวียนว่าย ในวังวน
ยังไม่พ้น จากวัฏฏะ สังขารา

๐ เก่าดับไป สิ่งใหม่ ก็แทนที่
เป็นอย่างนี้ มานาน กันหนักหนา
เพราะโลกนี้ ล้วนแล้ว แต่มายา
จึงเวียนว่าย กันมา ไม่หมดกรรม

๐ เมื่อมีเกิด ก็ย่อม จะมีดับ
เปลี่ยนสลับ กันไป ให้น่าขำ
เพราะกิเลส ตัณหา ชักพานำ
ก่อเกิดกรรม เวียนว่าย ในสายธาร

๐ คือสายธาร ของมนุษย์ ไม่หลุดพ้น
จึงเวียนวน เกิดดับ กับสังขาร
ไม่สิ้นสุด เวียนว่าย มานมนาน
คือสังสาร วัฏฏะ ที่หมุนวน

๐ แต่แนวทาง พุทธะ นั้นละได้
โดยฝึกใจ ให้ชอบ ประกอบผล
ละกิเลส ตัณหา และตัวตน
ก็หลุดพ้น จากกรรม ที่ทำมา

๐ ไม่ต้องกลับ มาเกิด ประเสริฐสุด
ก็เพราะหลุด จากกิเลส และตัณหา
เพราะเห็นทุกข์ เห็นภัย ในมายา
ละอัตตา ละมานะ ละตัวตน

๐ ไม่ก่อกรรม ทำบาป ที่หยาบช้า
ปรารถนา อยู่กับ บุญกุศล
เพิ่มกำลัง บารมี ให้แก่ตน
และฝึกฝน เจริญจิต ภาวนา

๐ มีสติ อยู่กับตัว รู้ทั่วพร้อม
แล้วก็น้อม ตั้งจิต ปรารถนา
ดูความคิด ดูกาย ที่เป็นมา
ให้ปัญญา เห็นทุกข์ และเข้าใจ

๐ เมื่อเห็นทุกข์ เห็นธรรม เพราะทำจิต
เปลี่ยนความคิด ตั้งจิต กับสิ่งใหม่
อยู่กับธรรม มีธรรม ประจำใจ
ก้าวเดินไป ตามทางธรรม พระสัมมา

๐ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวท
เอาเป็นเหตุ ฝึกฝน และค้นหา
เพื่อให้เกิด สมาธิ และปัญญา
จะนำพา ชีวิต ไม่ผิดทาง

๐ บุญกุศล เร่งทำ ในวันนี้
ตอนที่มี ชีวิต ควรคิดสร้าง
และรู้จัก การปล่อยปละ และละวาง
ตามแนวทาง แห่งพุทธะ จะได้ดี

๐ มีความสุข ความเจริญ ในชีวิต
ก็เพราะจิต ของเรา เพียงเท่านี้
เมื่อรู้พอ ความดิ้นรน ก็ไม่มี
เพียงเท่านี้ ใจก็สุข ทุกข์ไม่นาน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒๒ กันยายน ๒๕๖๕…