…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๒๘…
…การปฏิบัติธรรมนั้นเราต้องกระทำไปตามแบบอย่างที่มี ที่ครูบาอาจารย์ท่านสั่งสอนแนะนำมาก่อน จนมีความรู้ความเข้าใจ มีความชำนาญเสียก่อนจึงค่อยมาวิเคราะห์หาการปฏิบัติที่เหมาะสมกับตัวเรา การปฏิบัตินั้นต้องเป็นไปตามขั้นตอน ใจร้อนและข้ามขั้นตอนไม่ได้ ต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ทำให้เกิดความเคยชินรู้และเข้าใจชำนาญเสียก่อนในรูปแบบ แล้วจึงจะละรูปแบบนั้นได้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนและแบบแผนทั้งในทางโลกและทางธรรม…
…สุขได้ เมื่อใจพอ…
…เมื่อใด ที่ใจพอ
จะไม่ก่อ ซึ่งปัญหา
ดิ้นรน และไขว่คว้า
ให้ได้มา ให้ได้มี
…พอใจ และพอเพียง
ในการเลี้ยง ชีวิตนี้
พอใจ ในที่มี
เพียงเท่านี้ ก็สุขใจ
…ใจสุข ใจสงบ
ก็จะพบ กับสิ่งใหม่
ชีวิต แปรเปลี่ยนไป
เพราะว่าใจ นั้นเพียงพอ
…ความทุกข์ ความกังวล
ก็หลุดพ้น ไม่มีต่อ
เพราะใจ นั้นเพียงพอ
จึงไม่ก่อ ความวุ่นวาย
…ลาภยศ และสรรเสริญ
ถ้าหลงเพลิน จะเสียหาย
ดิ้นรน จนวันตาย
เพราะมุ่งหมาย ให้มันมี
…สุขทุกข์ ของคู่กัน
เป็นอย่างนั้น ในโลกนี้
ลาภยศ ที่เคยมี
มีวันที่ จะเสื่อมไป
…คำชม คำสรรเสริญ
ที่เคยเพลิน พึงพอใจ
นินทา ว่ากันไป
เปลี่ยนแปลงได้ ทุกคืนวัน
…นี้คือ โลกธรรม
เป็นกฎกรรม เสมอฉันท์
เป็นอยู่ ของคู่กัน
เป็นอย่างนั้น ตลอดมา
…เมื่อไหร่ ใจนั้นพอ
จะไม่ก่อ ซึ่งปัญหา
มานะ และอัตตา
ตัวตัณหา จะจางลง
…ชีวิต จะพบสุข
ไม่ไปทุกข์ เพราะความหลง
ทุกอย่าง จะจบลง
ถ้าหากปลง ให้ใจพอ….
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๙ มีนาคม ๒๕๖๕…