…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๓๙…
…”เสียหนึ่ง อย่าเสียสอง
เสียของ อย่าเสียใจ
เสียแล้ว ให้เสียไป
ใจอย่าเสีย”…
…เป็นคำสอนของหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ ประธานสงฆ์วัดถ้ำเสือซึ่งท่านได้กล่าวเตือนสติบรรดาศิษย์ทั้งหลาย ให้นำไปพิจารณาปฏิบัติตามแนวของสติปัฏฐาน ๔ ในเรื่องของจิต คือการมีสติพิจารณาความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตของผู้ปฏิบัติเมื่อมีสิ่งมากระทบแล้วจิตเข้าไปปรุงแต่งตาม
…สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนเป็นไปตามกฎของพระไตรลักษณ์ คือความเป็นอนิจจังทุกขัง อนัตตา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไปไม่มีอะไรที่ที่จะหนีกฎนี้ไปได้ สิ่งที่สำคัญก็คือการทำใจ ยอมรับกับสภาวะที่จะเกิดขึ้นนั้น ว่าเราจะรับได้ขนาดไหนในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวของเราเอง
…การสูญเสียนั้น ถ้าเป็นสิ่งของวัตถุที่จับต้องได้ มันก็ไม่หนักหนาเท่าไหร่ เพราะว่าเรายังมีโอกาสที่จะหามาชดใช้ มาทดแทนได้เพราะเป็นของนอกกาย แต่สิ่งที่หามาทดแทนไม่ได้ ก็คือความรู้สึกนึกคิดที่เสียไป เสียความรู้สึกที่ดีต่อกันสิ่งนั้นไม่อาจจะหามาทดแทนได้เช่นความรู้สึกที่ดี ที่เคยดีต่อกันเมื่อความรู้สึกนั้นมันเปลี่ยนแปลงไปมันยากที่จะทำให้กลับมาเหมือนเดิมได้มันเป็นบาดแผลในจิตที่ยากเกินแก้ไขถึงจะประสานอย่างไร มันก็ยังมีรอยร้าวเหมือนสังคมไทยในปัจจุบันนี้ คือความรู้สึกที่ดี ที่เคยมีต่อกันนั้นสูญเสียไปเพราะขาดซึ่งความจริงใจที่มีให้แก่กัน
…ถ้าเราขาดสติไม่พิจารณาดูจิต ปล่อยให้ความคิด รัก โลภ โกรธ หลง เข้าครอบงำเราจะขาดคุณธรรมและสูญเสียมิตรไปเพราะว่าใจของเรานั้นไม่มั่นคง หลงไปตามกระแสของโลกธรรมทั้งหลายอันได้แก่ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุขทำให้จิตใจของคนเปลี่ยนแปลงไปเพราะความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวจนทำให้ขาดซึ่งหิริและโอตตัปปะไม่มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาปกระทำในสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ซึ่งมีเหตุมาจากการที่ไม่มีคุณธรรมคุ้มครองจิตเพียงแต่รู้ธรรม เข้าใจธรรม จำเนื้อหาของธรรมได้ แต่ไม่ได้นำมาปฏิบัติไม่ได้อยู่ในธรรม มันจึงขาดซึ่งคุณธรรมประจำจิต แยกแยะถูกผิดกันไม่ได้เพราะพ่ายแพ้ต่อกิเลสที่ยั่วยวน
…ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายจึงต้องหมั่นดูจิต ควบคุมความคิดและรู้จักการข่มใจอดกลั้นต่อสิ่งยั่วยวนทั้งหลาย อย่าให้ใจของเรานั้นเสียไป เสียไปจากคุณธรรมที่ดีงาม เพราะว่าถ้าใจของเราสูญเสียไปจากคุณธรรมแล้ว มันจะทำให้เราหลงทางเดินออกห่างจากคุณงามความดีมีความคิดเป็นมิจฉาทิฏฐิจนนำไปสู่อบายได้ในที่สุด ถ้าเราไม่รู้จักควบคุมจิตของเรา ให้มั่นคงอยู่ในคุณธรรม…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๕…