บอกเล่าจาการเดินทาง

…บอกเล่าจาการเดินทาง…

…จงพยายามทำพุทธศาสนาให้เป็นศาสนาสากล โดยเอาเหตุและผลมาเป็นที่ตั้ง ปรับเข้าหาธรรมชาติแห่งความเป็นจริงทั้งหลาย ที่รู้ได้และสัมผัสได้ด้วยการกระทำสามารถที่จะนำไปใช้เป็นหลักในการดำเดินชีวิตประจำวัน เพราะธรรมะนั้นก็คือธรรมชาติทั้งหลาย ที่แปรเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมของจังหวะเวลา โอกาส สถานที่และตัวบุคคลโดยมีองค์แห่งคุณธรรมคุ้มครองอยู่คือเป็นผู้ละอายและเกรงกลัวต่อบาปประกอบด้วยความมีเมตตา โอบอ้อมอารี มีใจเสียสละ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีอยู่ในจิตใจของคนทั้งหลายอยู่แล้ว โดยไม่จำกัดเรื่องเชื้อชาติและศาสนา

…มันเป็นคุณธรรมประจำจิตที่มีอยู่ของทุกผู้คน เราเพียงชี้แนะ ให้มีความมั่นใจ เปิดโอกาส ส่งเสริมให้เขาได้ทำในสิ่งเหล่านั้น เพราะว่าในส่วนลึกของจิตสำนึกของมนุษย์ทุกคนนั้น ต่างก็ปรารถนาอยากจะเป็นคนดี ขอเพียงให้มีผู้ชี้ทางและสร้างโอกาสให้แก่เขา นั้นคือสิ่งที่เราต้องคิดและต้องกระทำ…

…แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง…

….ร้อยเรื่องก็ร้อยรส
นั้นปรากฏให้พบเห็น
ที่มีและที่เป็น
ล้วนแตกต่างกันออกไป

…ไม่เหมือนแต่ว่าคล้าย
ต่างจุดหมายกันภายใน
ต่างคนก็ต่างใจ
ล้วนคิดกันคนละทาง

…เกิดจากความคิดเห็น
จึงได้เป็นข้อแตกต่าง
อยู่ร่วมในเส้นทาง
ความขัดแย้งนั้นจึงมี

…ขัดแย้งทางความคิด
แบ่งถูกผิดในทุกที่
มิตรภาพที่เคยดี
ต่อกันนั้นสลายไป

…ความเห็นที่แตกต่าง
อาจมีทางร่วมกันได้
ถ้าหากเราเข้าใจ
ไม่ก้าวล้ำสิทธิกัน

…แสวงหาซึ่งจุดร่วม
เพื่อจะรวมสมานฉันท์
จุดต่างไม่ว่ากัน
สงวนไว้ไม่ล่วงเกิน

…ร่วมคิดและร่วมทำ
เพื่อจะนำให้เจริญ
ร่วมสร้างเส้นทางเดิน
สู่สังคมอุดมการณ์

…เริ่มต้นจากตัวเรา
แล้วจึงเอาไปเล่าขาน
ฝึกทำให้ชำนาญ
ฝึกนึกคิดทำจิตดี

…ดีนอกและดีใน
ดีทั้งใจและวจี
คิดทำแต่กรรมดี
ฝึกจิตนั้นให้มั่นคง

…มองโลกทั้งสองด้าน
มองให้ผ่านอย่าไปหลง
ซื่อสัตย์และซื่อตรง
ต่อหน้าที่ที่มีมา

…มีความรับผิดชอบ
ซึ่งประกอบด้วยปัญญา
ฝึกฝนและค้นหา
เหตุปัจจัยประกอบกัน

…เริ่มต้นจากความคิด
เริ่มจากจิตสมานฉันท์
เคารพสิทธิกัน
สังคมนี้ไม่วุ่นวาย…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๗ กันยายน ๒๕๖๕…