ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๙๐

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๙๐…

…ดั่งที่เคยได้กล่าวไว้เสมอว่าธรรมทั้งหลายนั้นไม่มีใครเป็นเจ้าของ เป็นของที่อยู่คู่กับธรรมชาติ คู่โลกกันมา เพียงแต่ถ่ายทอดธรรม การใช้ภาษานั้นอาจจะแตกต่างกันบ้างในสำนวนและลีลา แต่เนื้อหาและความหมายต่างก็ไปในทิศทางเดียวกัน คือการสร้างสรรค์ให้โลกใบนี้นั้นสงบและร่มเย็น ชี้ให้เห็นคุณและโทษของกิเลสทั้งหลาย เป็นไปเพื่อความจางคลายในทิฏฐิมานะและอัตตาตัณหาและอุปทาน

…ธรรมนั้นจึงไม่ควรมีการสงวนลิขสิทธิ์ยึดถือมาเป็นของผู้ใดแต่ผู้เดียว ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับความรู้สึกนึกคิดและจิตสำนึกของแต่ละคน ที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากธรรมะนั้น…

…กาพย์ยานี ๑๑…
…รอยทาง สร้างรอยธรรม
รอยที่ย่ำ คือรอยทาง
รอยธรรม คือแบบอย่าง
ให้เดินตาม ผู้ก้าวนำ

…เรียบเรียง มาบอกเล่า
เพื่อให้เข้า ใจในธรรม
ออกจาก ความมืดดำ
สู่เส้นทาง แห่งความดี

…หลายหลาก มากมุมมอง
ตอบสนอง ในทุกที่
แนวทาง และวิธี
นั้นมีมาก ให้เดินตาม

…เดินตาม เส้นทางธรรม
ที่ชี้นำ ให้ก้าวข้าม
หุบเหว และขวากหนาม
สิ่งชั่วหยาบ มาสู่ดี

…กรรมดี จะส่งผล
เป็นมงคล เสริมราศี
จิตดี ส่งกายดี
จะได้พบ ความสุขใจ

…สุขใจ เพราะไร้ทุกข์
ได้พบสุข ที่สดใส
ชีวิต ก้าวเดินไป
บนเส้นทาง แห่งสายธรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๕…