ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๔

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๔…

“ผู้มีปัญญาย่อมเว้นสิ่งไม่เป็นประโยชน์ และถือเอาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์”

“อนตฺถํ ปริวชฺเชติ อตฺถํ คณฺหาติ ปณฺฑิโต”
…พุทธสุภาษิต ปัญหาสูตร ๒๑/๕๔…

…สิ่งที่กล่าวเน้นย้ำและทำให้ดูอยู่เสมอต่อลูกศิษย์ ก็คือเรื่องความสามัคคีของหมู่คณะและการรู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อส่วนรวม เพราะธรรมส่วนนี้เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายและเป็นธรรมที่จะเป็นพื้นฐานของการปฏิบัติธรรมที่สูงขึ้นไปกว่านี้ เพราะการรู้จักเสียสละ ลดละความเห็นแก่ตัวนั้น ใจมันต้องเปิดกว้างมีความเมตตา กรุณา ปราณีและไมตรีจิตเป็นพื้นฐาน

…เมื่อเราสอนให้เขามีจิตใจที่ดีงามได้แล้ว จึงค่อยสอดแทรกธรรมะที่สูงขึ้นกว่าไปให้เขา ให้เขามีเวลาปรับกาย ปรับจิต ปรับความคิดขึ้นมาใหม่ ละลายพฤติกรรมเก่า ๆ ที่เขาเคยทำมา ซึ่งต้องใช้เวลาในการละลายพฤติกรรม ซึ่งเป็นการสอนโดยที่เขาไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกสอนอยู่ปฏิบัติกันได้ทั้งเด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่ซึ่งต้องใช้หลักของจิตวิทยามาเป็นแนวทางสร้างความคุ้นเคยกันระหว่างพระและโยม สร้างความศรัทธาให้เขายอมรับ ซึ่งต้องใช้ทั้งพระเดชและพระคุณ ใช้ทั้งบู๊และบุ๋น จึงจะปกครองคนหมู่มากได้

…แกล้งโง่บางโอกาส อย่าทำตัวฉลาดตลอดไป โง่ไม่เป็น เป็นใหญ่ยากแกล้งโง่และแกล้งบ้า เพื่อศึกษาพฤติกรรมและความคิดของเขาแล้วเราจะรู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเราหรือเขามีความคิดอย่างไรในเรื่องเหล่านั้น ให้เขามีส่วนในการเสนอความคิด อย่าไปปิดกั้นความคิดของเขาโดยเอาความคิดของเรามาเป็นตัวตัดสินเขาจะมีความรู้สึกภาคภูมิใจเพราะว่าเขานั้นได้มีส่วนร่วมในงานนั้น…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๕…