ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๗


…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๗…

…ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้อย่าเอาชีวิตไปยึดติดกับผู้ใดขอให้ศรัทธาในธรรมะที่เขากล่าวให้มากกว่าตัวของผู้กล่าวธรรมแล้วท่านจะไม่เสียใจเมื่อผู้กล่าวธรรมนั้นแปรเปลี่ยนไป

…จงให้ความสำคัญในธรรมของพระพุทธองค์ที่มีผู้นำมากล่าวมากกว่าตัวของผู้กล่าวธรรมจงเอาที่ธรรมะ อย่าไปเอาที่ตัวบุคคล แล้วจะทำให้ท่านไม่เสียใจหรือเสียความรู้สึกเมื่อผู้ที่กล่าวธรรมนั้นมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป …

…เช้าวันใหม่ ชีวิตใหม่…

…รุ่งอรุณ วันใหม่ ฟ้าใสสด
ฟ้างามงด ด้วยแสงทอง ที่ส่องฉาย
ลมอ่อนอ่อน พัดผ่าน ให้สบาย
ปลุกใจกาย ให้ตื่น รับตะวัน

…เมื่อแสงเงิน แสงทอง ส่องขอบฟ้า
เหล่าวิหก นกกา ต่างสุขสันต์
ต่างส่งเสียง สื่อสาร ประสานกัน
ต้อนรับวัน ฟ้าใหม่ ที่ใกล้มา

…บรรยากาศ เป็นใจ ให้เหมาะสม
ฝากสายลม ผ่านร่มไม้ จากภูผา
ร่ายกวี สุนทร เป็นกลอนมา
ส่งฝากฟ้า ผ่านสายลม ให้ชมกัน

…ชีวิตนี้ มีอะไร มากมายนัก
หากรู้จัก ค้นคิด จิตสร้างสรรค์
ไม่ปล่อยเปล่า ล่วงไป ในคืนวัน
อย่าให้มัน ผ่านไป โดยไร้การ

…จงทบทวน ถึงชีวิต ที่ผ่านมา
จะได้เห็น คุณค่า มหาศาล
จงเก็บเกี่ยว สิ่งที่พบ ประสพการณ์
สิ่งที่ผ่าน มาพินิจ คิดใคร่ครวญ

…เพื่อจะเดิน ก้าวไป สู่ข้างหน้า
วันเวลา ผ่านไป ไม่กลับหวน
ทำอะไร ให้ใจรู้ สิ่งคู่ควร
จงทบทวน ฝึกจิต คิดให้เป็น

…จงรู้จัก แยกแยะ ดีและชั่ว
สิ่งที่ตัว นั้นได้รู้ และได้เห็น
สิ่งที่ทำ สิ่งที่คิด จิตที่เป็น
มองให้เห็น ตัวตน ค้นให้เจอ

…มีสติ รู้ตัว อยู่ทั่วพร้อม
มีใจน้อม สู่ธรรม ไม่พลั้งเผลอ
รู้เท่าทัน กับจิต เมื่อเจอะเจอ
รู้เสมอ รู้ทัน กับอารมณ์

…รู้อะไร ก็ไม่สู้ เท่ารู้จิต
รู้ความคิด สิ่งผิด จิตนั้นข่ม
อะไรดี อะไรชอบ จงชื่นชม
ฝึกอบรม ข่มจิต ให้คิดดี…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๕…