ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๙๘

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๙๘…

…เตือนย้ำบอกกล่าวกับลูกศิษย์อยู่เสมอว่า ให้เลือกเส้นทางของชีวิตในสายธรรม จะไปสายปฏิบัติหรือจะไปสายปริยัติ ซึ่งถ้าตั้งใจและศรัทธาจริง ตั้งใจที่จะบวชนาน ๆ ไม่มีความคิดที่จะลาสิกขาก็ควรที่จะเลือกไปในสายปฏิบัติเพื่อให้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่

…การเรียนรู้ในทางโลกนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นไปเพื่อความอยากมี อยากได้และความอยากเป็นส่งจิตออกจากตัวเองอยู่ตลอดเวลา แสวงหาสิ่งนอกกาย เป็นไปเพื่อความเพิ่มพูนซึ่งกิเลสตัณหาอัตตาอุปาทานเรียนไปๆกิเลสก็ยิ่งหนามิได้เบาบางลง…

…การเรียนรู้ในทางธรรมนั้น คือการประพฤติปฏิบัติ ซึ่งทวนกระแสโลกเป็นไปเพื่อความลดละซึ่งความโลภโกรธ หลงละกิเลส ตัณหาและอุปาทานให้มันเบาบางลงเป็นการศึกษาเข้ามาสู่ภายในจิตในกายของเราน้อมจิตเข้าสู่ตัวเรา เรียนรู้ให้รู้จักตัวเราเอง…

…ระลึกถึงธรรมคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ที่ท่านได้รจนาไว้ว่า

…จิตที่ส่งออก เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออก เป็นทุกข์
จิต เห็น จิต เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิต เป็นนิโรธ…

…ทุกข์…เท่านั้น เกิดมา พาหลงใหล
สมุทัย…ที่กำเนิด เกิดทุกอย่าง
นิโรธ…ธรรม นำไป ให้ถูกทาง
มรรค…สรรค์สร้าง สัจจะ สู่พระธรรม

… เป็นของจริง จากสัจจะ อริยะ
องค์พุทธะ เลิศล้น ชนดื่มด่ำ
บอกโลกรู้ ดูให้เป็น จึงเห็นธรรม
เพื่อจะนำ หนึ่งชีวิต ไม่ผิดทาง…

…ขอนอบน้อมต่อพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ …

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาาม…
…๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๕…