…คิดไป เขียนไป บทที่ ๑๙…
…อวดดี ทั้งที่ไม่มีดีในตัว อวดเก่งทั้งที่ไม่มีความเก่งในตัว อวดรู้ทั้งที่ไม่มีความรู้อะไรในตัว คนโง่ชอบอวดตัวว่าเป็นคนฉลาด คนขี้ขลาด มักจะอวดตัวว่าเป็นผู้กล้า…
…วางใจให้มันมั่งคง ไม่กังวลไม่สนใจใคร ทำให้เหมือนกับอยู่คนเดียว ภายนอกเคลื่อนไหวภายในทำใจให้สงบ พิจารณาร่างกายพิจารณาดูจิต มันฟุ้งซ่านไปไหนก็ให้รู้จักมัน รู้เท่าทันกับกิเลสสู้กับกิเลสที่เกิดขึ้นในใจเราเอาชนะมันให้ได้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับวันๆหนึ่ง…
…ให้รู้อยู่กับปัจจุบัน อดีตล่วงไปแล้วไม่ไปคิดถึง อนาคตที่ยังมาไม่ถึงก็อย่าไปคิดกังวล อยู่กับปัจจุบันธรรมหายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้ ลมหายใจมันสั้นก็รู้ ลมหายใจยาวมันก็รู้หายใจโปร่งโล่งเบาสบายก็รู้อยู่กับลมหายใจ เพียงเท่านั้นก็เพียงพอ ต่อการปฏิบัติธรรมสติและปัญญาจะแก่กล้าขึ้นมาเองถ้าเราได้กระทำและฝึกฝนอยู่อย่างสม่ำเสมอ…
…เมื่อเราอยู่กับธรรม ธรรมนั้นก็อยู่กับเรา เมื่อเรารักษาธรรมธรรมนั้นจะรักษาเรา ธรรมะคือตัวเราตัวเราคือธรรมะ เพราะธรรมะนั้นคือธรรมชาติที่เป็นจริงของสรรพสิ่งในโลกนี้…
…นี้คือตัวอย่างบางบทบางตอนของสภาวธรรมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะจำได้และบันทึกได้ในแต่ละวัน แต่ละเวลาเมื่อจิตของเราอยู่กับธรรม…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕…