ทบทวนในสิ่งที่ผ่านมา

…ทบทวนในสิ่งที่ผ่านมา…

…เป็นสิ่งทุกคนไม่คาดคิด ที่เห็นเราในเพศบรรพชิตในวันนี้ เพราะจากอดีตที่ผู้คนเคยสัมผัสมา เคยเป็นคนที่ไม่มีศาสนาเป็นขี้เหล้า ขี้ยา อันธพาล เป็นพวกบ้าอุดมการณ์หัวเอียงซ้าย ถูกมองว่าเป็นคนโหดร้ายหัวรุนแรง ไม่เคยเชื่อในเรื่องบาปกรรม

…ในวันที่ตัดสินใจอำลาวงการไปนั้นก็ไม่ได้บอกให้ใครทราบ หายออกจากที่พักในกรุงเทพฯทิ้งน้องๆไปอย่างไร้ร่องรอย เก็บตัวปฏิบัติอยู่ในป่าเขาไม่ติดต่อกับมิตรสหายเป็นเวลาเกือบสามปี จนมีวันหนึ่งน้องๆที่พยายามตามหาได้ไปพบ อาศัยปักกรดอยู่ในถ้ำกำลังนั่งเรียงกระดูกที่ขุดขึ้นมาจากป่าช้าอยู่ น้องๆคิดว่าเราเพี้ยนไปแล้วซึ่งช่วงนั้นเรากำลังศึกษาเรื่อง “กายคตากัมมัฏฐานและเรื่องอสุภกัมมัฏฐาน” การพิจารณาร่างกายและความไม่สวยงามทั้งหลาย จึงจำเป็นต้องใช้โครงกระดูกของซากศพคนจริงๆมาพิจารณา คนที่ไม่เข้าใจก็เลยว่าเป็นบ้าเพี้ยนไปแล้ว ซึ่งหลังจากวันที่น้องๆได้ตามตัวพบแล้วนั้น ก็ได้ออกธุดงค์เข้าป่าไปเก็บตัวอยู่ในหุบเขาเป็นเวลาหนึ่งปีเต็มไม่ได้ติดต่อกับใครอีกเลย…

…ศึกษาทุกศาสตร์วิชาเพื่อให้สิ้นความสงสัย ว่ามันเป็นอย่างไรทำได้อย่างไรเดินทางไปกราบไหว้ครูบาอาจารย์เพื่อศึกษาข้อวัตรปฏิบัติและหลักธรรมคำสอนของแต่ละสำนัก แล้วนำมาปฏิบัติว่าถูกกับจริตของเราหรือไม่ จนเป็นที่ชัดเจน สิ้นสงสัยในศาสตร์ทั้งหลายที่ได้เล่าเรียนมา

…บทสุดท้ายคือปล่อยวาง อยู่อย่างธรรมดา รอวันเวลา ที่เหตุและปัจจัยนั้นถึงพร้อม คืนกลับสู่สามัญ…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕…