เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๒๖

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๒๖…

…สร้างวัดสร้างวัตถุนั้นสร้างได้ง่ายแต่สร้างคนที่จะมาดูแลรักษานั้นสร้างยาก เราจึงเห็นวัดร้างสำนักสงฆ์ร้างกันมากมาย เพราะเราไปเน้นสร้างวัตถุกันมากจนเกินไปไม่ได้สร้างจิตสำนึกและสร้างคนขึ้นมาทดแทน…

…ในอ้อมกอดของขุนเขา
ใต้ร่มเงาหมู่มวลพฤกษา
ท่ามกลางสายลมที่พัดโชยมา
บนจุดหนึ่งของกาลเวลา
จงถามตัวเองอยู่เสมอว่า…
แสวงหาให้ได้มาซึ่งสิ่งใด
ทบทวนในสิ่งที่ได้ผ่านไป
ว่าความมุ่งหวังที่ตั้งใจไว้
นั้นก้าวไกลถึงไหนแล้ว….

…ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นมันอยู่ที่ทุกคนจะคิดและทำหรือไม่อย่าได้น้อยใจและโทษวาสนาบารมีต่อว่าตัวเรานั้นไม่ดีไม่มีอำนาจวาสนาเพราะว่าการทำอย่างนั้นเท่ากับเป็นการแช่งตัวเอง ขาดความศรัทธาเชื่อมั่นในการกระทำของตนเองซึ่งมันจะทำให้มีแต่ความเสื่อมถอยไม่มีความเจริญ…

…จงมีความศรัทธาเชื่อมั่นในตนเองศรัทธาและเชื่อมั่นในความดีที่ได้กระทำมา ทบทวนมองหาความดีที่เราได้เคยกระทำน้อมนำมาคิดและพิจารณาเพื่อให้ศรัทธานั้นเกิดเพราะว่าชีวิตของแต่ละคนที่ผ่านมาย่อมมีคุณค่าในตัวตนคุณค่าของชีวิตคือจิตที่ใฝ่หาซึ่งความดีของชีวิตจงคิดใคร่ครวญทบทวนว่าชีวิตของเราที่ผ่านมานั้น เรามีคุณค่าสำหรับชีวิตของเราแล้วหรือยัง..?

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๗ มีนาคม ๒๕๖๕…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *