…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๗๘…
…ได้ลองเข้าไปท่องเที่ยวในโลกไอที พบว่ามีภาพถ่าย บทความธรรมและบทกวีที่ได้เขียนแพร่กระจายอยู่ในที่ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งบางที่ก็มีมารยาทให้เครดิตต่อเจ้าของผลงานและเว็บฯ ที่นำมา แต่บางที่ก็ขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ลบที่มาและใส่ชื่อตนเองลงไปซึ่งสิ่งทั้งหลายเป็นธรรมดาของมนุษย์โลกที่มีความคิดและจิตสำนึกที่แตกต่างกัน
…ซึ่งตัวผู้เขียนนั้นไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ในชิ้นงาน เพียงเพื่อจะถ่ายทอดความรู้สึกคิดและมุมมองเผยแผ่ธรรมะออกไป ซึ่งธรรมะทั้งหลายนั้นไม่มีใครเป็นเจ้าของ เป็นของที่อยู่คู่กับธรรมชาติคู่โลกกันมา เพียงแต่การใช้ภาษานั้น อาจจะแตกต่างกันในสำนวนและลีลา แต่เนื้อหาและความหมายต่างก็ไปในทิศทางเดียวกัน นั้นคือการสร้างสรรค์ให้โลกนี้นั้นสงบและร่มเย็นชี้ให้เห็นคุณและโทษของกิเลสทั้งหลายเป็นไปเพื่อความจางคลายในทิฐิมานะและอัตตาตัณหาและอุปาทาน
…ธรรมะนั้นจึงไม่ควรมีการสงวนลิขสิทธิ์ยึดถือ มาเป็นของผู้ใดแต่เพียงผู้เดียวทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับความรู้สึกนึกคิดและจิตสำนึกของแต่ละคน ที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากธรรมนั้น เพื่อสร้างสรรค์จรรโลงคุณธรรมให้บังเกิดแก่สังคมสืบไป…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑ ตุลาคม ๒๕๖๕…