จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๙

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๙…

…มีผัสสะ มากมาย กระทบจิต
ทำให้คิด วุ่นวาย และสับสน
จิตเป็นทุกข์ เพราะใจ ไปกังวล
คือเหตุผล เมื่อใจ ได้ไตร่ตรอง

…เมื่อใจทุกข์ จึงมอง ประคองจิต
ดูความคิด ดูจิต ที่เศร้าหมอง
ได้พินิจ ใคร่ครวญ และตริตรอง
และเฝ้ามอง ให้เห็น ความเป็นจริง

…สรรพสิ่ง ล้วนตั้ง อยู่ในหลัก
พระไตรลักษณ์ คือหลัก สรรพสิ่ง
พระไตรลักษณ์ คือหลัก แห่งความจริง
สรรพสิ่ง ไม่เที่ยงแท้ และแน่นอน

…มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับ
เปลี่ยนสลับ กันไป เป็นคำสอน
อนิจจัง ไม่เที่ยงแท้ และแน่นอน
ทุกข์ร้าวรอน เพราะใจ ไปยึดมัน

…ไม่ยอมลด ยอมละ ซึ่งความอยาก
ต้องการมาก ยึดติด ไม่แปรผัน
ไม่อยากสูญ ไม่อยากเสีย อยากได้มัน
ทุกสิ่งนั้น ล้วนเป็น อนัตตา

…นี่เป็นกฎ ธรรมชาติ พระไตรลักษณ์
นี่คือหลัก ของพุทธะ ศาสนา
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ใช้ปัญญา มองให้เห็น ความเป็นจริง

…เข้าใจโลก ก็เห็นธรรม เมื่อนำคิด
ทำให้จิต นั้นสงบ และหยุดนิ่ง
เพราะได้รู้ ได้เห็น ความเป็นจริง
สรรพสิ่ง มันเป็น เช่นนั้นเอง….

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๗ ธันวาคม ๒๕๖๔…

ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๘๓

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๘๓…

…ธรรมะนั้นมีอยู่ทุกที่และทุกเวลาเกิดขึ้นอยู่เสมอ ผู้มีปัญญาย่อมน้อมเข้ามาสู่ตนเอง คือน้อมเข้ามาพิจารณาในตัวเอง เมื่อพิจารณามากเข้า ก็จะถึงซึ่งความเป็นปัจจัตตัง คือสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน ทำเองเห็นเองและรู้เองในสิ่งที่ทำ…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๘๓”

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๘๓

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๘๓…

…”ภิกษุจงเป็นผู้ไม่ประมาท มีสติ มีศีลอันดี จงมีความดำริตั้งมั่นตามรักษาจิตของตนเถิด”

“อปฺปมตฺตา สตีมนฺโต สุสีลา โหถ
ภิกฺขโว สุสมาหิตสงฺกปฺปา
สจิตฺตมนุรกฺขถ”
…พุทธสุภาษิต มหาปรินิพพานสูตร ๑๐/๑๒๐…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๘๓”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๘

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๘…

…กวีธรรมส่องนำทาง…

…กวีธรรม นำทาง สร้างชีวิต
กวีธรรม นำจิต นิมิตใหม่
กวีธรรม ส่องนำ กายและใจ
กวีธรรม ทำให้ ใจร่มเย็น…

…กวีธรรม ทำให้ ใจนึกคิด
กวีธรรม ชี้ให้จิต นั้นได้เห็น
กวีธรรม สอนจิต คิดให้เป็น
กวีธรรม ที่ได้เห็น. นั้นส่องทาง

…กวีธรรม นำเรื่องราว มาเล่าสู่
กวีธรรม บอกให้รู้ ถึงแบบอย่าง
กวีธรรม นั้นเตือนใจ ให้ละวาง
กวีธรรม คือแบบอย่าง เส้นทางธรรม

…กวีธรรม นั้นกลั่น มาจากจิต
กวีธรรม คือนิมิต ที่ลึกล้ำ
กวีธรรม ลบล้าง ความมืดดำ
กวีธรรม ชี้นำ ให้ก้าวเดิน…

…กวีธรรม น้อมนำ ให้นึกคิด
กวีธรรม เหมือนมิตร ไม่เก้อเขิน
กวีธรรม ทำให้ ใจเพลิดเพลิน
กวีธรรม ดำเนิน อยู่เรื่อยไป

…กวีธรรม นั้นอยู่ คู่กับโลก
กวีธรรม อำนวยโชค ให้สดใส
กวีธรรม น้อมนำ ซึ่งจิตใจ
กวีธรรม ทำให้ ใจถึงธรรม…

…กวีธรรม ล้ำเลิศ ประเสริฐนัก
กวีธรรม คือที่พัก ผู้บอบช้ำ
กวีธรรม ปลอบใจ ผู้มีกรรม
กวีธรรม ชี้นำ ผู้ทุกข์ทน…

…กวีธรรม ชี้ทาง สว่างจิต
กวีธรรม ช่วยชีวิต ให้หลุดพ้น
กวีธรรม มอบให้ แด่ทุกคน
กวีธรรม สร้างกุศล ธรรมทาน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๖ ธันวาคม ๒๕๖๔…

ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๘๒

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๘๒…

…การปฏิบัติธรรมนั้น ไม่ได้ทำให้เราฉลาดขึ้นกว่าคนอื่น แต่ทำให้เราได้เห็นความโง่ ความหลงผิดในอดีตของเราที่ผ่านมา ยิ่งปฏิบัติก็ทำให้เราได้เห็นในสิ่งที่เรานั้นยังไม่รู้ ในสิ่งที่ยังไม่เข้าใจซึ่งที่ผ่านมานั้น เราอาจจะคิดว่าเรารู้ถูกต้องและเข้าใจหมดแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เรายังไม่รู้จริง เรายังไม่เข้าใจในความจริง อย่างที่เราเคยคิด ยังมีอีกมากมายที่เรายังไม่รู้และไม่เข้าใจ…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๘๒”

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๘๒

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๘๒…

…”ภิกษุทั้งหลาย! เราประพฤติพรหมจรรย์นี้มิใช่เพื่อหลอกลวงคน เพื่อให้คนบ่นถึงเพื่อผลคือลาภสักการะและชื่อเสียงเพื่อเป็นเจ้าลัทธิ เพื่อให้คนทั้งหลายรู้จักเรา ก็หามิได้ แต่ที่จริงแล้ว เพื่อความสังวรระวัง เพื่อละกิเลส เพื่อคลายกิเลสและเพื่อดับกิเลสเท่านั้น”…

…” นยิทํ ภิกฺขเว พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ
ชนกุหนตฺถํ น ชนลปนตฺถํ
น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ
น อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสตฺถํ
น อิติ มํ ชโน ชานาตูติ
อถโข อิทํ ภิกฺขเว พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ
สํวรตฺถํ ปหานตฺถํ วิราคตฺถํ นิโรธตฺถนุติ “…
…พุทธสุภาษิต พรหมจริยสูตร ๒๑/๒๙…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๘๒”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๖

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๖…

…ชีวิตเดินไปตามวิบากกรรมที่เคยทำมาในอดีต ส่งผลทั้งในทางดีและทางร้ายทุกสิ่งทุกอย่างนั้นล้วนมีที่มาและมีที่ไปมีเหตุและปัจจัยในการเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไป มีการเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา มิอาจจะตั้งอยู่ได้นานตลอดไปมันเป็นตามกรรมที่ได้ทำมา

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๖”

ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๘๑

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๘๑…

…”ภายนอกเคลื่อนไหว ภายในสงบนิ่ง” สงบนิ่งนั้นหมายถึงการไม่หวั่นไหวไปตามกระแสโลกทั้งหลาย ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่ประสพพบเห็น วางใจให้เป็นกลางมองทุกอย่างด้วยเหตุและผล ซึ่งอยู่บนหลักธรรม แล้วนำมาประยุกค์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ อย่างที่ครูบาอาจารย์ท่านได้กล่าวสอนไว้ว่า “ให้ทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง” คือว่างจากกิเลสตัณหาและอัตตา

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๘๑”

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๘๑

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๘๑…

…รางวัลแห่งความสำเร็จของชีวิต มิได้วางไว้ที่จุดเริ่มต้นแต่อยู่ที่ปลายทาง ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ชีวิตนี้ยังไม่สิ้นหวังทุกสิ่งที่ผ่านมานั้น มันไม่ใช่ความล้มเหลวหรือความผิดพลาดมันเป็นบทเรียนหนึ่งของชีวิตที่ต้องเรียนรู้ จงเอาอดีตที่ผ่านมานั้นมาเป็นครูสอนให้เราเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่กับปัจจุบัน…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๘๑”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๖

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๖…

…ชีวิตเดินไปตามวิบากกรรมที่เคยทำมาในอดีต ส่งผลทั้งในทางดีและทางร้ายทุกสิ่งทุกอย่างนั้นล้วนมีที่มาและมีที่ไปมีเหตุและปัจจัยในการเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไป มีการเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา มิอาจจะตั้งอยู่ได้นานตลอดไปมันเป็นตามกรรมที่ได้ทำมา

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๖”