กระแสธรรมแห่งกาลเวลา

…กระแสธรรมแห่งกาลเวลา…

…การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้น เราต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อชุมชนและคนรอบกายพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ก่อนที่เราจะร้องขอจากเขานั้น เราต้องแบ่งปันและให้เขาก่อนจงเป็นผู้ให้แล้วท่านจะรับการให้ตอบแทนเป็นคำสอนของครูบาอาจารย์

…การมีน้ำใจต่อหมู่คณะนั้นจะทำให้ท่านได้รับความเกรงใจ สรุปลงได้ในหลักธรรมเรื่อง “พรหมวิหาร” ซึ่งแปลว่าเป็นธรรมอันเป็นเครื่องอยู่ของพรหม ธรรมอันเป็นหลักประจำใจของผู้ใหญ่ ธรรมที่ผู้ใหญ่ควรประพฤติ พรหมวิหารนั้นเป็นธรรมที่เกิดขึ้นในใจ เป็นธรรมที่กระตุ้นให้เกิดการกระทำ เช่น สงเคราะห์ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น…

อ่านเพิ่มเติม “กระแสธรรมแห่งกาลเวลา”

ทบทวนธรรมในยามเช้า

…ทบทวนธรรมในยามเช้า…

…บุคคลแตกต่างกันด้วยธาตุและอินทรีย์ พระพุทธเจ้าทรงแยกเป็น ๔ จำพวกคือ…

๑. อุคฆติตัญญู คือบุคคลที่เมื่อฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าแล้วก็บรรลุธรรมทันที
๒. วิปจิตตัญญู คือบุคคลที่จะต้องอธิบายขยายเนื้อความจึงจะได้บรรลุธรรม
๓. เนยยบุคคล คือบุคคลที่จะต้องมีการฝึกฝนและอบรมจึงจะได้บรรลุธรรม
๔. ปทปรมบุคคล คือบุคคลที่สอนไม่ได้บอกอะไรก็ไม่รู้เรื่อง เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ

…สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมที่ได้ทำและสะสมมา ดั่งคำที่กล่าวเสมอว่า กรรมใคร กรรมมัน อย่าไปเศร้าหมองกับอกุศลกรรมของผู้อื่นเลย…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕…

เมื่อจิตระลึกถึงธรรม

…เมื่อจิตระลึกถึงธรรม…

…ชีวิตดำเนินไปตามปกติ ทำกิจวัตรของสงฆ์ ไปตามปกติที่เคยกระทำมาเสร็จจากกิจวัตรของสงฆ์ ก็มาปฏิบัติกิจวัตรของการเป็นผู้นำของหมู่คณะคือการตรวจตราดูแลเรื่องการก่อสร้างดูความเรียบร้อยในอาวาสที่อยู่อาศัยจดบันทึกทำบัญชีรับ-จ่ายในแต่ละวันคิดโครงการวางแผนงานที่จะทำต่อไปนี่คืองานในทางโลก

…ส่วนงานในทางธรรมก็คือการเจริญสติภาวนา ตามจังหวะเวลาและโอกาสที่สามารถจะทำได้ ใช้เวลาที่ผ่านไปกับการทำงาน ยามว่างภารกิจ ผ่อนคลายด้วยการเขียนบทความ บทกวีธรรมเพราะถือว่าการทำงานนั้น้เป็นการปฏิบัติธรรม เป็นการฝึกเจริญสติฝึกควบคุมความรู้สึกและอารมณ์กับสิ่งกระทบทั้งหลาย เพราะว่าการทำงานนั้น ต้องมีความสัมพันธ์กับหมู่คณะ ต้องพบปะพูดคุยและทำงานร่วมกัน หลายคนก็หลายความคิดและแตกต่างกันด้วยจิตและอารมณ์ ทำให้ต้องควบคุมตนเองให้มากขึ้น

…ต้องมีสติระลึกรู้ก่อนที่จะพูดและทำเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันทั้งทางกายและทางจิตกับผู้ร่วมงานการทำงานนั้นก็กลายเป็นการปฏิบัติธรรมไปในตัว เพราะว่าเราต้องอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง ต้องพบปะกับผู้คน ต้องทำงาน ต้องทำกิจเพื่อเลี้ยงชีวิตตามอัตภาพของสงฆ์ ไม่ใช่จะมีเวลา นั่งหลับตาภาวนาเพียงอย่างเดียวหรือไม่พบปะกับผู้คนเลย เราต้องอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคมที่หลายหลากนี้คือความเป็นจริงของชีวิต…

อ่านเพิ่มเติม “เมื่อจิตระลึกถึงธรรม”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๒๒

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๒๒…

…อย่าให้วันเวลาผ่านไปโดยไร้ค่า อย่าให้วันเวลาโดยเปล่าประโยชน์ และเป็นโทษต่อชีวิตของเราเลย ทุกสิ่งทุกอย่างเรากำหนดขึ้นมาได้ด้วยตัวของเราเอง คือการกระทำที่เรียกว่ากรรมของเราในวันนี้ ซึ่งพรุ่งนี้ก็จะกลายเป็นอดีตไปแล้วยอมรับในความเป็นจริงของสรรพสิ่งที่เผชิญอยู่รู้ตน รู้ประมาณ รู้กาลเวลา ว่าเราควรจะปรารถนาได้ในสิ่งใด เพียงใด

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๒๒”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๒๑

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๒๑…

…“กมฺมุนา วตฺตตีโลโก”… สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม ที่สุดของพรหมวิหาร ๔ ก็คือการวางอุเบกขา เพราะเราเมตตาสงสาร จึงเข้าไปสงเคราะห์ช่วยเหลือ ถ้าเขาดีขึ้นเราก็ยินดีด้วยกับเขา

…แต่ถ้าสงเคราะห์แล้วยังเหมือนเดิมหรือแย่ลงกว่าเดิม ก็ต้องทำใจปล่อยวางเพราะว่าเราทำหน้าที่ของเรานั้นสมบูรณ์แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นวิบากกรรมของเขาเองที่จะต้องได้รับ…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๒๑”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๔๒

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๔๒…

…“ชีวิตคือการทำงาน การทำงานคือส่วนหนึ่งของชีวิต” ชีวิตต้องดำเนินไปตามกระแสของกรรม ทุกคนเกิดมาต่างมีภาระหน้าที่และบทบาทที่แตกต่างกันตามที่กรรมเก่าได้จัดสรรไปตามเหตุและปัจจัย ซึ่งที่มานั้นเราไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ เพราะมันเป็นเรื่องของอดีตที่ผ่านมาแล้ว แต่เรื่องราวในอนาคตนั้น เราสามารถที่จะกำหนดได้โดยการสร้างเหตุและปัจจัยในวันนี้ดำเนินชีวิตตามภาระและหน้าที่ของเราที่มีให้สมบูรณ์ ทำในสิ่งที่ไม่เป็นภัยต่อชีวิต ไม่เป็นพิษต่อผู้อื่น ไม่ฝ่าฝืนศีลธรรมกฎหมายและประเพณีที่ดีงามเดินตามอริยมรรคอันมีองค์ ๘ ไปตามสถานะและสภาวะของเรา

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๔๒”

สาระธรรมและคำกวีในยามเช้า

…สาระธรรมและคำกวีในยามเช้า…

…ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นมันอยู่ที่ทุกคนจะคิดและทำหรือไม่อย่าได้น้อยใจและโทษวาสนาบารมีต่อว่าตัวเรานั้นไม่ดีไม่มีอำนาจวาสนาเพราะว่าการทำอย่างนั้นเท่ากับเป็นการสาปแช่งตัวเองขาดความศรัทธาเชื่อมั่นในการกระทำของตนเองซึ่งมันจะทำให้มีแต่ความเสื่อมถอยไม่มีความเจริญ…

…โศลกธรรมนำสู่บทกวี…

…เมื่อน้ำนั้นนิ่งใส ก็จะเห็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้นชัดเจนถ้าน้ำนั้นยังกระเพื่อมอยู่ก็เห็นได้ไม่ชัดเจนเปรียบกับจิตที่เป็นหนึ่งหยุดนิ่งย่อมรู้หมดมีอะไรรู้หมด เห็นกายเห็นจิตของตนเองได้แล้วก็ย่อมจะรู้และเข้าใจในกายและจิตของผู้อื่นเช่นกัน …

อ่านเพิ่มเติม “สาระธรรมและคำกวีในยามเช้า”

กระแสธรรมแห่งกาลเวลา

…กระแสธรรมแห่งกาลเวลา…

…บอกกล่าวแก่ผู้ร่วมปฏิบัติธรรมเสมอว่า “ไม่เกร็ง ไม่เคร่ง ไม่เครียด” ปล่อยจิตสบายๆ โดยมีสติและสัมปชัญญะควบคุมอยู่ ตามดูกายตามดูจิต ตามดูความคิด ตามดูการกระทำ อยู่แบบปกติธรรมดาๆทำหน้าที่ของเราไปตามที่ต้องกระทำตามปกติ “ไร้กระบวนท่า แต่อย่าไร้สาระ”

อ่านเพิ่มเติม “กระแสธรรมแห่งกาลเวลา”

เมื่อจิตระลึกถึงธรรม

…เมื่อจิตระลึกถึงธรรม…

…ช่วงนี้หยุดพักเรื่องการเดินทางลงชั่วคราว ทำให้มีเวลาที่จะทบทวนได้ในสิ่งที่ได้ผ่านมา สิ่งที่มุ่งหวังและตั้งใจไว้ สิ่งที่ได้กระทำลงไปและสิ่งที่ยังไม่ได้กระทำ การทำงานทุกอย่างนั้นต้องมีแผนงาน มีแบบแผนและโครงสร้างที่เราต้องวางไว้ล่วงหน้าซึ่งที่ผ่านมานั้นเกิดจากการคิดและวิเคราะห์หาความเหมาะสมกับเวลาโอกาส สถานที่ บุคคล เอามาเป็นเหตุและผลของการกำหนดแผนงาน

…วางใจของเราให้เป็นกลาง แล้วมองทุกอย่างโดยความเป็นจริง ไม่เอาความคิดของตนเองมาเป็นบรรทัดฐานในการคิดและวิเคราะห์ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับเหตุและปัจจัยที่มีและเป็นอยู่ คิดงานจากพื้นฐานที่มีอยู่

…คือเมื่อคิดได้และต้องทำได้ด้วยไม่ใช่คิดไปแบบจินตนาการที่เลื่อนลอยคือการที่คิดได้แต่สามารถที่จะทำไม่ได้เพราะขาดซึ่งเหตุและปัจจัยมาหนุนช่วยมันจึงเป็นความคิด ความฝันที่เลื่อนลอยไม่สามารถทำให้เป็นรูปธรรมขึ้นมาได้

…แต่ถ้าเราคิดงานจากเหตุและปัจจัยที่มีอยู่ สิ่งที่เราคิดนั้นสามารถที่จะทำให้เป็นรูปธรรมได้ขึ้นมาทันที เพราะคิดจากสิ่งที่มีและที่เป็น ไม่ได้ไปคอยเหตุและปัจจัยในอนาคตที่ยังไม่มีและยังไม่มา สิ่งที่คิดจึงสามารถที่จะทำได้ทันทีสิ่งที่สำคัญในการคิดก็คือการรู้จักกำลังของตนเอง รู้ประมาณในกำลังความรู้ความสามารถและโอกาสที่ตนมี ไม่ทำในสิ่งที่เกินกำลังของตนเอง เพราะการทำงานที่เกินกำลังของตนเองนั้นอาจนำมาซึ่งความทุกข์กายและทุกข์ใจ…

อ่านเพิ่มเติม “เมื่อจิตระลึกถึงธรรม”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๔๑

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๔๑…

…ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นอยู่ที่การเริ่มต้น “It is never too late to mend ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น” ถ้าเรามีความตั้งใจที่จะทำและมีความรับผิดชอบ ในความคิดของเราเอง คือมีสัจจะต่อตนเองแล้วทุกอย่างเริ่มต้นได้ทันทีและทุกเวลาทุกโอกาส

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๔๑”