รอยทางนั้นสร้างซึ่งรอยธรรม

…รอยทางนั้นสร้างซึ่งรอยธรรม…

…“ทำให้ดู อยู่ให้เห็น สอนให้เป็นแล้วจึงปล่อย” คือคติที่ปฏิบัติอยู่เสมอ ต่อบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายบนเส้นทางแห่งสายธรรมที่ผ่านมาบอกกล่าวกับบุคคลรอบข้างเสมอว่า “เป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านกาลเวลา” เพียงผ่านมาทำหน้าที่ แล้วจากไป…

๐ รอยทาง นั้นสร้าง รอยธรรม
รอยย่ำ นั้นคือ รอยทาง
รอยธรรม นั้นคือ แบบอย่าง
แนวทาง ที่ได้ ก้าวนำ

๐ เรียบเรียง นำมา บอกเล่า
ให้เข้า ใจใน หลักธรรม
ออกจาก โลกที่ มืดดำ
น้อมนำ สู่เส้น ทางดี

อ่านเพิ่มเติม “รอยทางนั้นสร้างซึ่งรอยธรรม”

เจริญสติ ระลึกรู้ อยู่กับธรรม

…เจริญสติ ระลึกรู้ อยู่กับธรรม…

๐ มีสติ เตือนตน จึงพ้นผิด
กุศลจิต ชี้นำ ตามวิถี
กุศลกรรม นำสร้าง สู่ทางดี
ก่อเกิดมี คุณธรรม ประจำใจ

๐ เพียรเจริญ สติ ระลึกรู้
วางจิตอยู่ กับกาย ไม่ไปไหน
ระลึกรู้ ให้เห็น ทั้งนอกใน
ระลึกไป ให้รู้ทั่ว ทั้งตัวตน

๐ กำหนดรู้ รูปนาม ตามแบบอย่าง
ทุกก้าวย่าง กำหนดรู้ อยู่ทุกหน
มีสติ ระลึกรู้ อยู่กับตน
หมั่นฝึกฝน เจริญจิต ภาวนา

๐ หมั่นทบทวน ใคร่ครวญ เพ่งพิเคราะห์
ให้พอเหมาะ เหตุปัจจัย ในเนื้อหา
รู้ที่ไป เห็นที่ดับ รู้ที่มา
เกิดปัญญา เห็นธรรม ความเป็นจริง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒๒ มกราคม ๒๕๖๔…

ธรรมทานนี้เลิศกว่าทานทั้งหลาย

…ธรรมทานนี้เลิศกว่าทานทั้งหลาย การแสดงธรรมบ่อย ๆ แก่บุคคลผู้เงี่ยหูลงรับฟัง นี้เลิศกว่าการพูดถ้อยคำอันเป็นที่รัก การชักชวนผู้ไม่ศรัทธาให้ตั้งมั่นทรงไว้ได้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ชักชวนผู้ละเมิดศีลให้ตั้งมั่นทรงไว้ได้ถึงพร้อมด้วยศีล

…ชักชวนผู้ไม่อยากให้ให้ตั้งมั่นทรงไว้ ได้ถึงพร้อมด้วยการปันให้ชักชวนผู้มีปัญญาทรามให้ตั้งมั่นทรงไว้ได้ถึงพร้อมด้วยปัญญา นี้เลิศกว่าการประพฤติประโยชน์ทั้งหลาย
…จากพระไตรปิฎก ภาษาไทยฉบับหลวง
เล่มที่ ๒๓ “พลสูตร” ข้อที่๒๐๙…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๑ มกราคม ๒๕๖๔…

ปรารภธรรมคำกวีจากรอยทาง

…ปรารภธรรมคำกวีจากรอยทาง…

๐ วันเวลา ผ่านไป ไม่หยุดนิ่ง
สรรพสิ่ง เกิดดับ และลับหาย
ผ่านเรื่องราว หลายหลาก และมากมาย
บทสุดท้าย งานเลี้ยง ย่อมเลิกรา

๐ ชีวิตเรา มีทั้งเศร้า และทั้งสุข
บางครั้งทุกข์ เพราะใจ นั้นใฝ่หา
หลงผิดไป ในกิเลส เพราะอัตตา
และตัณหา ความอยาก ที่มากมาย

๐ เมื่อพบทุกข์ ควรหันมา เข้าหาธรรม
เพื่อจะนำ ชีวิต สู่จุดหมาย
เพื่อวางจิต วางใจ ให้ผ่อนคลาย
จิตสบาย กายสุข ก็เห็นทาง

อ่านเพิ่มเติม “ปรารภธรรมคำกวีจากรอยทาง”

กวีธรรมตามรายทาง

…กวีธรรมตามรายทาง…

๐ มากมาย หมู่มิตร เวียนมา
พบหน้า ย้อนเล่า ความหลัง
เรื่องราว มากมาย เสียจัง
ความหลัง ครั้งเมื่อ ผ่านมา

๐ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมสร้าง
เส้นทาง แห่งการ ค้นหา
เรียนรู้ เรื่องนอก ตำรา
ศึกษา โดยการ กระทำ

๐ ชีวิต ของวัย หนุ่มสาว
เรื่องราว อดีต เตือนย้ำ
กุศล ผลบุญ หนุนนำ
พบธรรม ก่อนสาย เกินกาล

อ่านเพิ่มเติม “กวีธรรมตามรายทาง”

สาระกวีธรรมตามรายทาง

…สาระกวีธรรมตามรายทาง…

…ชีวิต ของทุก คนนั้น
จัดสรร ตามเหตุ และผล
ชีวิต ของทุก ทุกคน
ไม่พ้น จากทุกข์ ทั่วกัน

…ความทุกข์ เกิดจาก ตัณหา
เพราะว่า ความอยาก ทั้งนั้น
อยากมี อยากได้ ให้มัน
ใจนั้น อยากให้ มันเป็น

…เป็นไป ตามใจ ที่คิด
ยึดติด ในความ คิดเห็น
อยากมี อยากได้ อยากเป็น
รู้เห็น เพียงแต่ ฝ่ายตน

อ่านเพิ่มเติม “สาระกวีธรรมตามรายทาง”

กวีธรรมจากรอยทาง

…กวีธรรมจากรอยทาง…

๐ ฝึกฝน เจริญ สติ
ดำริ เป็นบุญ กุศล
สร้างสิ่ง ที่เป็น มงคล
เตือนตน รู้พร้อม ทั่วตัว

๐ รู้ตัว รู้ทัน ความคิด
รู้จิต รู้กาย ถ้วนทั่ว
สติ คู่กาย คู่ตัว
รู้ทั่ว รู้พร้อม น้อมตาม

๐ รู้ธรรม มีธรรม นำจิต
พินิจ ศึกษา สอบถาม
ฝึกฝน ค้นหา พยายาม
ติดตาม ความหมาย แห่งตน

อ่านเพิ่มเติม “กวีธรรมจากรอยทาง”

รำพึงธรรมคำกวีในยามก่อนรุ่งอรุณ

…รำพึงธรรมคำกวีในยามก่อนรุ่งอรุณ…

๐ วางนิ้ว บนแป้นพิมพ์
แล้วก็จิ้ม ตัวอักษร
บทความ และกาพย์กลอน
คติธรรม ประจำวัน

๐ หลายหลาก มากเรื่องราว
สื่อสารข่าว บอกเล่ากัน
เอาธรรม มาแบ่งปัน
นำเสนอ เพื่อทุกคน

๐ กล่าวธรรม ย้ำเตือนจิต
สอนให้คิด ถึงเหตุผล
ให้รู้ จักตัวตน
สิ่งควรคิด กิจควรทำ

อ่านเพิ่มเติม “รำพึงธรรมคำกวีในยามก่อนรุ่งอรุณ”

รำพึงธรรมคำกวีที่ริมสระน้ำ

…รำพึงธรรมคำกวีที่ริมสระน้ำ…

…หนาวลมที่ริมหน้าต่าง…

๐ สายลมที่พัดผ่าน
หนาวสะท้านทั่วทั้งกาย
สายลมสื่อความหมาย
บอกให้รู้ฤดูกาล

๐ ยามเช้าที่หนาวเหน็บ
จึงขอเก็บมาเล่าขาน
เรื่องราวของวันวาน
เล่าให้รู้สู่กันฟัง

๐ ห่างหายและเหินห่าง
เพราะไม่ว่างมีเบื้องหลัง
ภาระที่รุงรัง
ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม

อ่านเพิ่มเติม “รำพึงธรรมคำกวีที่ริมสระน้ำ”

ใคร่ครวญทบทวนธรรมไปตามกาล

…ใคร่ครวญทบทวนธรรมไปตามกาล…

…ระลึกถึงธรรมคำสอนของหลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จังหวัดเลย ที่ท่านได้กล่าวสอนไว้เป็นข้อความที่จำได้ประทับใจท่านกล่าวไว้ว่า…

…อย่ากินของร้อน (ราคะ โทสะ โมหะ)
…อย่านอนบนไฟ (โลภ โกรธ หลง)
…ให้ไปอย่างแร้ง (ไม่ยึดติด ไม่สะสม)
…แสวงหาบริสุทธิ์ (ของที่ชอบธรรม)

…กิเลสตัณหาทั้งหลาย ล้วนเป็นของร้อน เป็นไฟเผาไหม้อยู่ภายในจิตในใจของเราเสมอมา ใจเรารุ่มร้อนกระวนกระวายเพราะกิเลสตัณหา ความอยากมีอยากได้ ความพอใจและความไม่พอใจในสิ่งที่มี การยึดถือ ในตนเองจนมากเกินไปความรัก ความใคร่ ความลุ่มหลง เสน่หา ล้วนแล้วแต่พาให้ใจเรารุ่มร้อน เหมือนมีไฟมาสุมอยู่ในใจเรา

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญทบทวนธรรมไปตามกาล”