คือแสงธรรมส่องทางในยามเช้า

…คือแสงธรรมส่องทางในยามเช้า…

…สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ นิคมของชาวศักยะ ในแคว้นสักกะ ครั้งนั้นท่านพระอานนท์ ได้เข้าเฝ้าแล้วกราบทูลพระพุทธองค์ว่า.. “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี และมีเพื่อนที่ดีนั้น นับว่าเป็นครึ่งหนึ่งของพรหมจรรย์ทีเดียวนะ พระเจ้าข้า”

อ่านเพิ่มเติม “คือแสงธรรมส่องทางในยามเช้า”

ปรารภธรรมในยามรุ่งอรุณ

…ปรารภธรรมในยามรุ่งอรุณ…

…สภาวะธรรมเป็นของเฉพาะตนรู้ได้ด้วยการปฏิบัติเหมือนดั่งคำโบราณท่านกล่าวว่า

“สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น
สิบตาเห็น ไม่เท่ามือคลำ
สิบมือคลำ ไม่เท่าทำเอง”

…การเข้าใจในสภาวะธรรมเกิดขึ้นในจิต มิใช่คิดไปเอง แยกอารมณ์ความรู้สึกออกจากกัน มีสติตั้งมั่นไม่เสื่อมคลาย ทำความเข้าใจในสภาวะจิตว่าความคิดนั้นเกิดจากสิ่งใด สัญญา.. อุปาทาน.. ผัสสะ. .แล้วจะพบสภาวะธรรมที่แท้จริง พฤติกรรมภายนอกไม่สามารถบ่งบอกสภาวะภายในได้เสมอไป สภาวะจิตสภาวะธรรมนั้นอยู่ภายในเป็นของที่รู้ได้เฉพาะตน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๒ มกราคม ๒๕๖๔…

ระลึกถึงอดีตครั้งเยาว์วัย

…ระลึกถึงอดีตครั้งเยาว์วัย…

…เด็กน้อย
ดวงตาเจ้าแจ่มใส
หัวใจเจ้ายังบริสุทธิ์
ดุจดั่งผ้าใหม่ที่ยังสะอาด
คือความเป็นธรรมชาติของชีวิต
น่าสงสารเด็กน้อยทั้งหลาย
ผู้ที่เกิดมาในยุคสมัยปัจจุบัน
ที่ที่โลกนั้นเปลี่ยนไปอย่างมากมาย
เกิดท่ามกลางความเลวร้ายของสังคม

…เด็กน้อย
เมื่อวันเวลานั้นผ่านไป
เจ้าคงเรียนรู้อะไรอีกมากมาย
แววตาและจิตใจคงเปลี่ยนแปลงไป
ตามยุคสมัยของการเปลี่ยนแปลง
ที่ต้องแย่งยื้อกันเพื่อหาที่ยืนในสังคม
ได้เพียงภาวนาขอให้เจ้านั้นจงโชคดี
มีกัลยาณมิตรที่ดีช่วยชี้แนะคุ้มครอง

…สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๑ มกราคม ๒๕๖๔…

ปรารภธรรมและคำกวีในยามก่อนรุ่งอรุณ

…ปรารภธรรมและคำกวีในยามก่อนรุ่งอรุณ…

…สายลมยังเปลี่ยนทิศ จิตคนก็เปลี่ยนแปลง เมื่อมีเรื่องของผลประโยชน์มาแอบแฝง เจตนาที่เคยบริสุทธิ์ก็หายไป เพราะใจนั้นไม่มั่นคงในพระสัทธรรมปล่อยให้ความโลภเข้าครอบงำ ก่อเกิดซึ่งอกุศลกรรม อกุศลจิต ลืมหมู่มิตรและครูบาอาจารย์…

๐ สายลม พัดพา ความหนาว
เรื่องราว ของเช้า วันใหม่
ยอดสน ต้องลม แกว่งไกว
เอนไป ตามสาย ลมแรง

๐ หมู่เมฆ บนฟ้า กระจาย
ลับหาย เมื่อยาม ต้องแสง
ฟ้าใส อากาศ เปลี่ยนแปลง
แสดง ถึงกาล เวลา

อ่านเพิ่มเติม “ปรารภธรรมและคำกวีในยามก่อนรุ่งอรุณ”

กวีธรรมบนรอยทาง

…กวีธรรมบนรอยทาง…

…รอยทางที่ก้าวย่ำ
คือรอยธรรมที่ผ่านมา
ย่างผ่านกาลเวลา
เห็นเกิดดับสลับกัน

…สติระลึกรู้
เฝ้าตามดูรู้เท่าทัน
อยู่กับปัจจุบัน
ทำลายล้างตัวนิวรณ์

…เพียรเผาซึ่งกิเลส
ซึ่งเป็นเหตุให้เร้าร้อน
เป็นไปตามขั้นตอน
ปฏิบัติตามศรัทธา

…ยืนเดินหรือนั่งนอน
ละนิวรณ์ที่จรมา
สร้างเสริมเติมปัญญา
ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๐ มกราคม ๒๕๖๔…

คติธรรมยามค่ำคืน

…คติธรรมยามค่ำคืน…

“อย่ารังเกียจผู้ที่มีกรรม อย่าซ้ำเติมผู้ที่หลงผิด”

…จงชี้ทางถูกให้แก่ผู้ที่มืดบอด…

“Don’t repel…Don’t reproach the careless man but tell the blind with the good way.”

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๙ มกราคม ๒๕๖๔…

รำพึงกับกาลเวลา ณ ราตรีหนึ่ง

…รำพึงกับกาลเวลา ณ ราตรีหนึ่ง…

…ชีวิตนี้
จะดิ้นรนกันไปถึงไหนกัน ฟุ้งซ่านทะยานอยากไปทำไม เหลื่ออะไรติดตัวไปเมื่อวันตาย ชีวิตคือของไม่เที่ยงแท้เปลี่ยนแปรไปตามจิตนิมิตหมาย ดิ้นรนแสวงหาจนวันตายสุดท้ายก็ได้เพียงความทุกข์ทน

…สิ่งที่เราคิดว่าสุข
ก็คือความทุกข์แห่งการแสวงหา สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงภาพมายา อนิจจาสำคัญผิดคิดไปเองความสุขจาก กิน กาม เกียรติ เป็นเพียงความสุขชั่วครั้งชั่วคราว ดำรงค์อยู่ไม่นานก็หายไป เหลือไว้แต่ความทุกข์เข้าแทนที่เป็นอยู่เช่นนี้เสมอมา

…ฉันจึงออกแสวงหา
ซึ่งความสุขที่แท้จริง….

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๙ มกราคม ๒๕๖๔…

รำพึงธรรมก่อนทำวัตรเช้า

…รำพึงธรรมก่อนทำวัตรเช้า…

…การอยู่กับปัจจุบันธรรม โดยมีสติและสัมปชัญญะที่เป็นสัมมาควบคุมอยู่ทุกขณะจิต รู้จักการแยกแยะชั่วดีมีความละอายและเกรงกลัวต่อบาปรู้เห็นการเกิดดับของสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ นั้นคือการเจริญวิปัสสนา…

…สภาวธรรม
เกิดขึ้นทุกขณะจิต ละเอียดอ่อนและฉับไวแปรเปลี่ยนไปไม่หยุดนิ่งสรรพสิ่งคือสภาวธรรม

…จิต
ซุกซนสอดส่ายไปกับผัสสะที่มากระทบปรุงแต่งไปในอารมณ์เสพสมในโลกีย์สุขสนุกกับตัณหาอุปาทาน

…สติ
หลงลืมไปบ้างเป็นครั้งคราวขาดซึ่งการเจริญสติต่อเนื่องเปิดโอกาสให้กิเลสรุกรานเชิญชวนให้ก้าวไปในอบายซึ่งกว่าจะระลึกได้ ก็เกือบจะสาย

…วันนี้
คุณเจริญสติแล้วหรือยัง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๘ มกราคม ๒๕๖๔…

หนึ่งในบันทึกแห่งความทรงจำ

…หนึ่งในบันทึกแห่งความทรงจำ…

๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๗…

…หุบเขาสำนึกบาป ถ้ำเสือฯ กระบี่

…รำพึงธรรมในความเงียบ…

…กาลเวลา คือเครื่องพิสูจน์สรรพสิ่ง ธรรมชาติหรือเทคโนโลยีล้วนหนีไม่พ้นกฏของธรรมชาติ เกิดขึ้น…ตั้งอยู่..ดับไป… ไม่มีอะไรจีรังและยั่งยืน อนิจจัง…ทุกขัง…อนัตตา… ทุกสิ่งล้วนมายาไม่ควรจะลุ่มหลง ปลด…ปลง…ปล่อยวาง…

อ่านเพิ่มเติม “หนึ่งในบันทึกแห่งความทรงจำ”

รำพึงกวีธรรมจากรอยทาง

…รำพึงกวีธรรมจากรอยทาง…

๐ เส้นทาง ที่ย่างผ่าน
คือตำนาน การกระทำ
บันทึก เพื่อเตือนย้ำ
บทวิถี ที่สรรสร้าง

๐ รอยทาง สร้างรอยธรรม
รอยที่ย่ำ คือรอยทาง
รอยธรรม คือแบบอย่าง
เพื่อเป็นแนว ที่ก้าวนำ

๐ เรียบเรียง มาบอกเล่า
เพื่อให้เข้า ใจในธรรม
ออกจาก ความมืดดำ
สู่สว่าง เส้นทางดี

อ่านเพิ่มเติม “รำพึงกวีธรรมจากรอยทาง”