รำพึงคำกวีคืนวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์

…รำพึงคำกวีคืนวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์…

๐ เหนื่อยนัก อยากพักผ่อน
เอนกายนอน แนบพื้นดิน
ซึมซับ ซึ่งไอกลิ่น
ของผืนดิน ที่เกิดมา

๐ เดียวดาย ใต้ฟ้ากว้าง
บนเส้นทาง แสวงหา
ก้าวผ่าน กาลเวลา
ผ่านร้อยป่า และภูดอย

๐ ฝึกตน และฝึกจิต
เพื่อหมู่มิตร ที่รอคอย
ฝันไว้ ใช่เลื่อนลอย
จิตไม่ถอย ซึ่งศรัทธา

๐ เรียนรู้ ปริยัติ
ปฏิบัติ ภาวนา
สติ และปัญญา
เพื่อค้นหา สัจธรรม

๐ น้อมใจ มาดูจิต
ดูความคิด และกฎกรรม
สิ่งที่ ควรกระทำ
เป็นประจำ สืบกันมา

๐ รู้ธรรม และเห็นธรรม
ถ้าไม่ทำ ก็ไร้ค่า
ความรู้ ในตำรา
ต้องนำมา ใช้ได้จริง

๐ นำธรรม มาประยุกต์
ใช้กับทุก สรรพสิ่ง
ในโลก แห่งความจริง
ไม่หยุดนิ่ง มีเปลี่ยนแปลง

๐ ทุกสิ่ง ล้วนเคลื่อนไหว
เหมือนใบไม้ ที่กวัดแกว่ง
โดนลม ที่พัดแรง
กิ่งไม้แห้ง ย่อมร่วงลง

๐ ชีวิต ก็เหมือนกัน
เมื่อถึงวัน ไม่มั่นคง
ชีวิต ย่อมดับลง
ควรฝึกปลง ก่อนจะตาย

๐ ชีวิต ที่เหลืออยู่
ควรจะรู้ ซึ่งความหมาย
เตรียมตน ก่อนจะตาย
ยังไม่สาย ที่จะทำ…

…ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร…
…๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕…

บันทึกเล่มเก่า

…บันทึกเล่มเก่า…

…รำพึงธรรมในยามใกล้ค่ำ…

…การปฏิบัติธรรมไม่ได้ทำให้เราฉลาดขึ้นแต่ทำให้เราเห็นความโง่ความหลงผิดในอดีตของเราที่ผ่านมา ปฏิบัติมากก็เห็นมากขึ้น…
…วันอังคารที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙…

…จิต
อ่อนแอและหวั่นไหว
แปรเปลี่ยนไปทุกเวลา
ปรุงแต่งอยู่เรื่อยมา
ไม่เคยหยุดสงบนิ่ง

…สติ
เพียรพยายามตามดูจิต
คอยเหนี่ยวรั้งมิให้พลั้งเผลอ
เตลิดออกไปนอกลู่นอกทาง
เป็นดั่งควาญที่บังคับช้าง

…จิต
ได้รับการฝึกฝนที่ดี
มีสติเป็นนายควบคุมอยู่
ต่อสู้กับหมู่มารทั้งหลาย
อันได้แก่ กิเลส ตัณหา อุปาทาน
รู้เท่าทันอารมณ์ ไม่หลงคล้อยตาม
จิตก็เป็นอิสระจากพันธะแห่งหมู่มาร
ความฟุ้งซ่านกังวลทั้งหลายก็หายไป
จิตนั้นก็ได้พบซึ่งความสงบที่แท้จริง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕…

ปรารภธรรมในยามเย็น

…ปรารภธรรมในยามเย็น…

…การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นการกระทำเพื่อมุ่งหวังซึ่งบุญกุศล เพื่อความเป็นมงคลของชีวิต ซึ่งต้องดูที่ดำริเจตนาในการปฏิบัติ ว่าผู้ปฏิบัตินั้นปรารถนาอะไรจากการปฏิบัติธรรมนั้นและสิ่งที่ตั้งใจปรารถนานั้น เป็นไปโดยชอบประกอบด้วยกุศลหรือไม่ หรือเป็นไปเพื่ออกุศล คือความอยากดี อยากเด่นอยากดัง มุ่งหวังคำสรรเสริญเยินยอหรือลาภสักการะ ประโยชน์ส่วนตนผู้ปฏิบัติธรรมนั้นต้องทำความรู้ความเข้าใจในเจตนาของตนเองเสียก่อนเพื่อให้ไม่หลงทาง เพราะว่าถ้าผิดแต่เริ่มต้น ผลต่อไปมันก็จะออกมาผิดทาง…

…การปฏิบัติธรรมนั้นท่านให้เป็นไปตามลำดับ เพื่อปรับธาตุ ปรับอินทรีย์ให้มีความพร้อม โดยเริ่มจากการให้ทานก่อน เพื่อปรับจิตใจให้มีความอ่อนโยน มีความเมตตา โอบอ้อมอารีมีความเสียสละ ละความเห็นแก่ตัวลงเสียก่อน ควบคู่กับการรักษาศีลเพราะการรักษาศีลนั้นคือการเจริญสติควบคุมกายและจิตไม่ให้ผิดในข้อวัตรปฏิบัติ มีสติควบคุมอยู่เพื่อให้ไม่ผิดศีลสิ่งที่ได้จากการรักษาศีล คือสติและองค์แห่งคุณธรรม คือความละอายและเกรงกลัวต่อบาป เพราะว่าเรามีคุณธรรมข้อนี้ เราจึงไม่ล่วงละเมิดผิดศีลทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕…

ระลึกถึงธรรมคำของหลวงปู่

…ระลึกถึงธรรมคำของหลวงปู่…

…สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรทำ
ความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งที่
ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง
แม้กระทำความผูกพันและมั่นใจ
ในสิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบัน
ก็เป็นไปไม่ได้ ผู้ทำความสำคัญ
มั่นหมายนั้น เป็นทุกข์แต่ผู้เดียว
โดยความไม่สมหวังตลอดไป

…อนาคตที่ยังมาไม่ถึงนั้น
เป็นสิ่งไม่ควรไปยึดเหนี่ยว
เกี่ยวข้องเช่นกัน

…อดีตปล่อยไว้ตามอดีต
อนาคตปล่อยไว้ตามกาลของมัน
ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้
เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ ไม่สุดวิสัย…

…หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕…

รำพึงธรรมและคำกวีในยามเย็น

…รำพึงธรรมและคำกวีในยามเย็น…

…ย้ำเตือนอยู่เสมอว่า จงเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านกาลเวลา ผ่านมาแล้วก็จากไป ทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่งดงามตามรายทาง…

…เป็นกรรมกรธรรม ใช้โยธากัมมัฏฐานเพื่อเป็นการเจริญสติและสัมปชัญญะยังให้เกิดประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านเป็นลดละซึ่งมานะและอัตตา ความโลภความหลงในโลกธรรม ๘ อันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ดำเนินชีวิตไปตามวิถีทางที่มุ่งหวัง เป็นไปเพื่อให้ความเจริญในธรรมนั้นบังเกิด ชีวิตที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ มันก็คือกำไรของชีวิต…

อ่านเพิ่มเติม “รำพึงธรรมและคำกวีในยามเย็น”

ทบทวนธรรมคำของพ่อแม่ครูบาอาจารย์

…ทบทวนธรรมคำของพ่อแม่ครูบาอาจารย์…

…คนเราควรมองผู้มีปัญญาใดๆที่คอยชี้โทษ คอยกล่าวคำขนาบอยู่เสมอไปว่าคนนั้นแหละ คือผู้ชี้ขุมทรัพย์ละควรคบบัณฑิตที่เป็นเช่นนั้นเมื่อคบหากับบัณฑิตชนิดนั้นอยู่ย่อมมีแต่ดีท่าเดียว ไม่มีเลวเลย…
…พระไตรปิฎกบาลี สยามรัฐ
๒๕/๒๕/๑๖…

อ่านเพิ่มเติม “ทบทวนธรรมคำของพ่อแม่ครูบาอาจารย์”

ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต

…ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต…

…ช่วงนี้จะมีการบวชพระกันบ่อยมากทั้งที่เป็นการบวชในโครงการต่าง ๆ หรือการบวชตามประเพณีนิยมที่ได้สืบทอดกันมา

…การบวชนั้นมิใช่เรื่องง่าย หรือว่าทำกันเล่น ๆ ผู้ที่จะบวชนั้นจะต้องมีความศรัทธาและตั้งใจ มิเช่นนั้นแล้วจะไม่เกิดประโยชน์อันใดในการบวชและจะกลายเป็นผู้ทำลายพระศาสนาโดยไม่รู้ตัวของผู้ที่บวชเข้ามา

อ่านเพิ่มเติม “ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต”

กวีธรรมจากรอยทาง

…กวีธรรมจากรอยทาง…

๐ รอยทาง สร้างรอยธรรม
รอยที่ย่ำ คือรอยทาง
รอยธรรม คือแบบอย่าง
เป็นแนวทาง ที่ก้าวนำ

๐ เรียบเรียง มาบอกเล่า
เพื่อให้เข้า ใจในธรรม
ออกจาก ความมืดดำ
เพื่อชี้นำ สู่ทางดี

๐ หลายหลาก มากมุมมอง
ตอบสนอง ในทุกที่
แนวทาง และวิธี
นั้นมากมี ให้เดินตาม

๐ เดินตาม เส้นทางธรรม
ที่ชี้นำ ให้ก้าวข้าม
หุบเหว และขวากหนาม
พยายาม สร้างกรรมดี

๐ กรรมดี จะส่งผล
เป็นมงคล เสริมราศี
จิตดี ส่งกายดี
เพราะว่ามี ความสุขใจ

๐ สุขใจ เพราะไร้ทุกข์
ได้พบสุข ที่สดใส
ชีวิต ก้าวเดินไป
เพราะว่าได้ เดินตามธรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕…

กำลังใจมอบให้แด่ทุกคน

…กำลังใจมอบให้แด่ทุกคน….

๐ เหนื่อยนักจงพักผ่อน
ที่ร้าวรอนให้จางหาย
เหนื่อยท้อขอให้คลาย
ที่มุ่งหมายใคร่ฝ่าฟัน

๐ แมกไม้ในคืนค่ำ
จะกอดคำถ้อยจำนรรจ์
แดนไพรพนาวัลย์
จะโอบอุ้มคุ้มชีวา

๐ เรไรในพงกว้าง
คนอ้างว้างช่างโหยหา
หรีดหริ่งส่งเสียงมา
แทนวาจาเพื่อปลอบโยน

๐ พักลง ณ ตรงนี้
ละสิ่งที่เป็นหัวโขน
ปลุกใจให้ลุกโชน
แม้นไกลโพ้นยังห่วงใย

๐ หลับตาอย่าท้อแท้
คราอ่อนแออย่าร้องไห้
คิดถึงและห่วงใย
แม้อยู่ไกลให้อยู่ดี

๐ จากใจคนไกลบ้าน
มาทำงานอยู่ต่างที่
กล่าวถ้อยร้อยวจี
ด้วยหวังดีมิเสื่อมคลาย

๐ อยู่คู่และเคียงข้าง
ในเส้นทางสู่จุดหมาย
มอบให้ทั้งใจกาย
แด่สหายร่วมแนวทาง

๐ ฝันใฝ่ไปให้ถึง
จะพบซึ่งแสงสว่าง
ศรัทธาอย่าได้จาง
จงเร่งสร้างซึ่งทางธรรม

๐ แสงธรรมนำชีวิต
ลบสิ่งผิดที่ครอบงำ
ลบล้างพฤติกรรม
แล้วชี้นำสู่ความดี

๐ ชีวิตลิขิตใหม่
เราสร้างได้ในวันนี้
เส้นทางสู่ความดี
เป็นสิ่งที่เราต้องทำ…

…ฝาก ไว้ให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจ ในยามที่ท่านนั้นท้อแท้หรือสับสน ยังมีเราอีกหนึ่งคนที่อยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้คุณ…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕…

ทบทวนธรรมในยามดึก

…ทบทวนธรรมในยามดึก…

…อานิสงส์ในการฟังธรรม ๕ ประการ… ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! อานิสงส์ในการฟังธรรม ๕ ประการ เหล่านี้คือ…

๑. ย่อมได้ฟังในสิ่งที่ไม่เคยฟัง
๒. สิ่งที่ได้ฟังแล้วแต่ไม่เข้าใจชัดย่อมเข้าใจชัดขึ้น
๓. บรรเทาความสงสัยเสียได้
๔. ทำความเห็นให้ตรงถูกต้องได้
๕. จิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส

อ่านเพิ่มเติม “ทบทวนธรรมในยามดึก”