บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๑

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๑…

…เมื่อใจนั้นยอมรับซึ่งความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลาย ว่าเรานั้นเป็นผู้กระทำสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นผลแห่งวิบากกรรมที่เรานั้นได้เคยกระทำมา ไม่โทษดินโทษฟ้า หาผู้รับผิดมาแทนเรา ใจนั้นก็จะโปร่งโล่งเบาเพราะได้วางจากการยึดถือทั้งหลาย ความทุกข์ที่มีนั้นก็จะคลายและเมื่อใจสบาย ความคิดนั้นก็จะโปร่งโล่งเบา เพราะว่าเข้าใจในปัญหาอุปสรรคทั้งหลายที่เกิดขึ้นและเมื่อทำใจยอมรับได้ซึ่งความเป็นจริงอุปสรรคปัญหาในทุกสิ่งนั้นย่อมจะมีหนทางที่จะแก้ไข อยู่ที่ว่าเรานั้นทำใจได้แล้วหรือยัง…

…กวีธรรมจากรอยทาง…

๐ รอนรอนตะวันลับ
เสียงนกขับกังวานมา
ใกล้ค่ำสนธยา
หมู่นกกาบินกลับรัง

๐ เมฆน้อยลอยเคว้งคว้าง
ลอยไปอย่างคนสิ้นหวัง
สายลมมีพลัง
พัดเมฆบังท้องนภา

๐ ฟ้าครึ้มเมื่อใกล้ค่ำ
ม่านเมฆดำปกคลุมฟ้า
ลมหนาวพัดผ่านมา
ต้องกายาปลุกชีวัน

๐ โดดเดี่ยวและเดียวดาย
ซุกซ่อนกายตามล่าฝัน
ผ่านคืนและผ่านวัน
เดินตามฝันบนหนทาง

๐ โดดเดี่ยวไม่เปลี่ยวเหงา
อยู่บนเขาไม่อ้างว้าง
เอาธรรมมานำทาง
แสงสว่างในทางเดิน

๐ มองโลกและมองธรรม
ก็สุขล้ำหาใดเกิน
พาใจให้เพลิดเพลิน
เมื่อได้เดินในทางธรรม

๐ เอาธรรมนำชีวิต
ปกป้องจิตมิให้ต่ำ
กุศลบุญหนุนนำ
ประกอบกรรมในสิ่งดี

๐ ชีวิตที่ผ่านมา
เรียนรู้ค่าชีวิตนี้
หลายหลากและมากมี
ในสิ่งที่ต้องกระทำ

๐ ทางกายและทางจิต
ตามลิขิตของกฎกรรม
ความชั่วไม่ครอบงำ
เพราะมีธรรมนำชีวี

๐ สร้างคุณบุญกุศล
เป็นมงคลบารมี
ต่อเติมเสริมราศี
สร้างสิ่งดีตลอดไป

๐ รอนรอนตะวันลับ
เพื่อพบกับสิ่งแปลกใหม่
ชีวิตดำเนินไป
อยู่ภายใต้เส้นทางธรรม….

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๔…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *