ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๑๗

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๑๗…

…ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ยากเกินความพยายามถ้าเรามีความตั้งใจจริง เราต้องทำให้เป็นจริงไม่ทอดทิ้งธุระ ต้องเอาชนะความเกียจคร้านความท้อแท้ท้อถอย และความยากลำบากอุปสรรคและปัญหา มีไว้ให้แก้ไข ไม่ใช่มีไว้เพื่อท้อถอย ต้องตั้งใจจริง แล้วความสำเร็จจะไม่ไกลเกินความพยายาม จงปลุกปลอบใจตัวเองอยู่เสมอว่า “เสียอะไรก็ได้ แต่อย่าให้ใจนั้นเสีย”

…จงมีความศรัทธาเชื่อมั่นในตนเองศรัทธาและเชื่อมั่นในความดีที่ได้กระทำมาทบทวนมองหาความดีที่เราได้เคยกระทำน้อมนำมาคิดและพิจารณาเพื่อให้ศรัทธานั้นเกิด เพราะว่าชีวิตของแต่ละคนที่ผ่านมาย่อมมีคุณค่า คุณค่าของชีวิตคือจิตที่ใฝ่หาซึ่งความดีของชีวิต จงคิดใคร่ครวญทบทวนว่าเรามีคุณค่าของชีวิตแล้วหรือยัง…

…ฟ้าครึ้มฝน หมองหม่น ตะวันดับ
แสงแดดลับ ซ่อนกาย ในเมฆหนา
สายลมหนาว พัดผ่าน กาลเวลา
ต้องกายา หนาวเย็น เป็นบางคราว

…มองสองข้าง ทางที่ เรานั้นผ่าน
มีเหตุการณ์ มากมาย ในลมหนาว
เก็บบันทึก ต่อเนื่อง เป็นเรื่องราว
แล้วส่งข่าว เล่าขาน สิ่งผ่านมา

…มองทุกสิ่ง เป็นธรรมะ จะได้คิด
คอยเตือนจิต เตือนใจ ให้ศึกษา
เพื่อเพิ่มพูน สติ และปัญญา
พัฒนา ความคิด จิตวิญญาณ

…เก็บสิ่งที่ มีสาระ มาเสนอ
สิ่งที่เจอ มากล่าว และเล่าขาน
สิ่งที่เห็น ที่พบ ประสบการณ์
ธรรมทาน มอบให้ ด้วยใจจริง

…เป็นธรรมะ ที่ไร้ ซึ่งรูปแบบ
ไม่คับแคบ เปิดกว้าง ในทุกสิ่ง
แต่ไม่ขาด สาระ ความเป็นจริง
ทั้งชายหญิง อ่านได้ ไม่เลือกวัย

…ทุกบทความ นั้นมี ธรรมะแฝง
ให้เป็นแหล่ง เรียนรู้ รูปแบบใหม่
บันทึกธรรม นำเสนอ ทุกวันไป
ก็เพื่อให้ ได้คิด พิจารณา

…แล้วนำมา ปรับใช้ ในชีวิต
ชี้ถูกผิด แนวทาง แก้ปัญหา
เตือนให้มี สติ และปัญญา
เพื่อให้พา ตัวรอด และปลอดภัย

…ใครจะคิด อย่างไร ไม่ไหวหวั่น
เพราะเรานั้น เตรียมจิต คิดแก้ไข
ปัญหามา ปัญญามี ทางที่ไป
เพราะว่าใจ บริสุทธิ์ หยุดจองเวร….

…แด่ทุกภาพถ่าย ทุกบทความทุกบทกวีที่นำเสนอมา…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕…