…ปรารภธรรมคำกวีก่อนจะทำวัตรเช้า…
…ถามตัวเองอยู่เสมอว่า วันเวลาผ่านไปเราได้อะไรจากวันเวลาและคุ้มค่ากับวันเวลาที่ผ่านไปหรือไม่ เพื่อไม่ให้เราหลงไปกับวัยและเวลาของชีวิตที่เหลืออยู่ จะได้รีบเร่งสร้างคุณค่าให้แก่ชีวิต แม้เพียงน้อยนิดก็ยังดีกว่าที่จะไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้มุ่งหวังว่าต้องเป็นชาตินี้หรือชาติหน้า เพียงแต่ตั้งใจไว้ว่า ทำต่อไปเรื่อย ๆ ถึงเมื่อไหร่ก็ไปเมื่อนั้นจะไม่สร้างความกดดันให้กับตัวเอง เพราะจะทำให้เกิดอาการเกร็ง แล้วเข้าไปเคร่ง ซึ่งมันจะทำให้เครียด
…“อนากุลา จ กมฺมนฺตา เอตมฺมํ คลมุตฺตมํ” การทำงานไม่คั่งค้างเป็นมงคลอันประเสริฐเพราะทำให้เราตัดกัมมะปลิโพธออกไปได้ถ้ากว่าการงานที่เราทำนั้นยังทำไม่เสร็จมันจะทำให้ค้างคาใจอดคิดถึงมันไม่ได้และเมื่องานที่เราได้ทำนั้นเสร็จสำเร็จไปแล้วปีติมันก็จะเกิดทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้น
…พยายามทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่างจากอัตตา อย่างที่หลวงพ่อพุทธทาสท่านสอนและท่านทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง…
๐ร้อยเรียง ถ้อยคำ นำกล่าว
เรื่องราว ที่ได้ พบเห็น
รวบรวม เรียงร้อย เช้าเย็น
มาเป็น ซึ่งบท กวี
๐ บอกเล่า เรื่องราว ที่พบ
ประสพ กับตัว เองนี้
บอกเล่า ถึงความ ชั่วดี
บอกชี้ เพื่อเป็น แนวทาง
๐ เป็นกาพย์ เป็นกลอน สอนใจ
เขียนไว้ เพื่อเป็น แบบอย่าง
เรียบเรียง ถ้อยคำ จัดวาง
เสริมสร้าง ตามอย่าง คำไทย
๐ หลายหลาก มากมาย ให้คิด
เตือนจิต เตือนใน น้องพี่
ปลุกใจ เพื่อให้ ใฝ่ดี
นำชี้ ซึ่งเส้น ทางธรรม
๐ รักษา ไว้ซึ่ง ภาษา
คุณค่า ภาษา เลิศล้ำ
ศึกษา และให้ จดจำ
น้อมนำ ไว้เป็น แนวทาง
๐ ขอวอน ให้หวน ครวญคิด
ดูจิต ดูใจ เสียบ้าง
ฝึกลด ฝึกละ ฝึกวาง
เพื่อสร้าง ทางสุข แก่ตน
๐ ไม่มี สุขใด ใหญ่ยิ่ง
ความจริง นั้นคือ เหตุผล
สร้างคน นั้นให้ เป็นคน
ทำตน ให้เป็น คนดี
๐ เริ่มต้น จากการ นึกคิด
วางจิต นั้นให้ ถูกที่
สติ นั้นต้อง พึงมี
ก่อนที่ จะพูด และทำ…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๕…