ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๑๘

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๑๘…

…อภิวาทนสีลิสฺส นิจฺจํ วุฑฺฒาปจายิโน
จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ…

…ธรรม ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกติไหว้กราบมีปกติอ่อนน้อม (ต่อผู้ใหญ่) เป็นนิตย์…

…ชีวิตในแต่ละวันที่ผ่านไปนั้นทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ ทำกิจวัตรของสงฆ์ตามปกติ เสร็จจากกิจวัตรของสงฆ์ก็มาปฏิบัติกิจวัตรของการเป็นผู้นำเจ้าของผู้ดูแลสถานที่ของหมู่คณะ นั้นคือการตรวจตราดูแลการก่อสร้าง ดูแลความเรียบร้อยในที่อยู่อาศัย สนทนาและให้กำลังใจแก่คนผู้ร่วมงานทั้งหลายคิดโครงการวางแผนงานที่จะทำกันต่อไปในอนาคตข้างหน้า นี้คืองานในทางโลก

…ส่วนงานในทางธรรมนั้นก็คือการเจริญสติภาวนา ตามเวลาและโอกาสที่สามารถจะทำได้ ใช้เวลาที่ผ่านไปอยู่กับการทำงานโยธากัมมัฏฐาน เพราะถือว่าการทำงานคือการปฏิบัติธรรม เพราะเป็นการฝึกเจริญสติฝึกควบคุมความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ที่แปรเปลี่ยนเมื่อพบ กับสิ่งกระทบทั้งหลาย

…เพราะการทำงานนั้น ต้องมีความสัมพันธ์กับหมู่คณะต้องพบปะพูดคุยและต้องทำงานร่วมกันกับผู้คนหลากหลาย หลายคนก็หลายความคิดและแตกต่างกันด้วยจิตและอารมณ์ทำให้ต้องควบคุมตนเองให้มากขึ้น มีสติระลึกรู้มากขึ้น ก่อนที่จะพูดและทำ

…เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันทั้งทางกายและทางจิตกับผู้ร่วมงานการทำงานนั้นก็กลายเป็นการปฏิบัติธรรมไปในตัว เพราะว่าเราต้องอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง ต้องพบปะกับผู้คนต้องทำงาน ต้องทำกิจเพื่อเลี้ยงชีวิตตามอัตภาพของสงฆ์ ไม่ใช่จะมีเวลานั่งหลับตาภาวนาเพียงอย่างเดียว หรือไม่พบปะกับผู้คนเลย เราต้องอยู่กับโลกกับสังคม

…นี้คือความเป็นจริงของชีวิต…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ -สมณะไร้นาม…
…๑ สิงหาคม ๒๕๖๕…