ใคร่ครวญทบทวนกับอดีตที่ผ่านมา

…ใคร่ครวญทบทวนกับอดีตที่ผ่านมา…

…ชีวิตที่ผ่านมาในสมัยเป็นฆราวาสนั้นย่อมมีความผิดพลาดมากบ้างน้อยบ้างเป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชนคนที่ยังเต็มไปด้วยเรื่องของกิเลส ตัณหาและอัตตาจึงนำพาชีวิตให้เดินผิดทาง

…แต่เมื่อได้เข้ามาสู่เส้นทางธรรมแล้วก็พยายามลดละ ละลายพฤติกรรมเก่าพยายามสร้างคุณประโยชน์เพื่อสังคมเพื่อเป็นการชดใช้วิบากกรรมที่ได้ทำมากาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ซึ่งตัวตน…

..๐..วิถีแห่งชีวิตเกิดจากจิตสำนึกที่ใฝ่ดี..๐..

…บนเส้นทาง ของชีวิต ที่ผิดพลาด
เพราะประมาท มัวเมา และลุ่มหลง
สิ่งไม่ดี ทั้งหลาย ให้มึนงง
มันจึงส่ง ผลมา หาร่างกาย

…เพราะมัวเมา เหล้ายา สารพัด
จิตอ่อนหัด ไม่รู้เห็น ในความหมาย
ว่าที่ทำ นั้นเป็นภัย ต่อร่างกาย
เกือบจะสาย ก่อนที่จิต คิดได้ทัน

…คิดว่าเป็น ทางสุข กลับทุกข์หนัก
ไม่รู้จัก ความดีชั่ว เพราะโมหัน
หลงในกิน กามเกียรติ ทุกคืนวัน
สารพัน สารพัด ที่จัดมา

…ไม่รู้จัก บาปบุญ คุณและโทษ
ถือประโยชน์ ส่วนตน เป็นเนื้อหา
ทำอย่างไร ให้ได้มี และได้มา
สนองตอบ ตัณหา ของตัวตน

…จนวันหนึ่ง ได้รู้ซึ้ง ถึงทางจิต
มีความคิด และเข้าใจ ในเหตุผล
จึงถอนตัว ออกห่าง ทางมืดมน
ไปสู่หน ทางใหม่ ไม่กลับมา

…ละทางโลก สู่ทางธรรม น้อมนำจิต
เปลี่ยนความคิด มุมมอง และเนื้อหา
เข้าสู่การ ลดละ ซึ่งอัตตา
ใช้ปัญญา มองสิ่งเห็น ให้เป็นธรรม

…ทุกอย่างนั้น เกิดจาก จิตสำนึก
ความรู้สึก ส่วนใน ไม่ใฝ่ต่ำ
กระตุ้นเตือน ความคิด และชี้นำ
คิดแล้วทำ ตามจิต ที่คิดดี

…ความคิดนั้น เป็นเพียง นามธรรม
จึงต้องนำ มาทำ ให้เต็มที่
รูปธรรม ทำให้เห็น และให้มี
ทำให้ดี ตามที่จิต นั้นคิดมา…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒๗ กันยายน ๒๕๖๕…