ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๔๕

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๔๕…

…มีผู้ปรารถนาดีหวังดีมาถามอยู่เสมอว่า ทำไม่ไม่อยู่อย่างผู้อื่นเขาทำไมไม่เอาอย่างเขา ก็ตอบไปว่าเราอยู่กับตัวตนที่แท้จริงของเราไม่เคยคิดที่จะสร้างภาพมายาให้คนมาศรัทธาชื่นชมกล่าวยกย่องสรรเสริญอยู่กับความเป็นจริง ทำในสิ่งที่ควรทำและทำได้ในขณะนั้น

…เพราะกระบวนการแห่งการลดละกิเลสตัณหานั้น มันเป็นเรื่องของจิตและคุณธรรมภายใน มันไม่ใช่การแสดงออกทางกาย ขอเพียงให้เรามีสติและสัมปชัญญะ ระลึกรู้และรู้ตัวทั่วพร้อม ในสิ่งที่คิดและในกิจที่ทำมีองค์แห่งคุณธรรมควบคุมกายจิตอยู่มีความอดกั้นอดทนต่อสิ่งยั่วยุทั้งหลายที่เป็นอกุศล ไม่เผลอใจคล้อยตามกิเลสฝ่ายต่ำ พยายามปรับปรุงตนเองอยู่เสมอ มิให้กิเลสฝ่ายต่ำเข้าครอบงำ

…ก้าวเดินไปอย่างช้าๆเก็บรายละเอียดระหว่างรายทาง คือการก้าวย่างที่มั่นคงและไม่หลงทาง ไม่ใช่การขันแข่งไม่ใช่การแสดง ไม่ใช่การโอ้อวดแต่มันคือความเป็นจริงของชีวิตที่เป็นอยู่เรียนรู้เพื่อพัฒนาให้จิตนั้นก้าวหน้ามีความเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๕…