ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๘๕

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๘๕…

…”ภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายจงเจริญสมาธิเถิด ภิกษุผู้มีใจตั้งมั่นแล้ว ย่อมเห็นตามความเป็นจริง”

…”สมาธึ ภิกฺขเว ภาเวถ สมาหิโต
ภิกฺขเว ภิกฺขุ ยถาภูตํ ปชานาติ”…
…พุทธสุภาษิต สมาธิสูตร ๑๙/๔๗๐…

…สมาธิในระบบของพระพุทธศาสนานั้นต้องเริ่มมาจากจิตที่เป็นกุศลและเป็นไปเพื่อความจางคลายของกิเลส ตัณหา อัตตาทิฐิมานะและอุปาทานทั้งหลาย

…ส่วนสมาธินอกระบบนั้นเป็นไปเพื่อการมีการได้ในสิ่งที่ตนปรารถนา เป็นการเพิ่มซึ่งกิเลสตัณหา ทิฐิมานะ อัตตาและอุปาทานให้มีมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายฝึกสมาธิเพื่ออยากจะมี อยากจะได้ไปในสมาธิเชิงพลังงาน ต้องการซึ่งการมีพลังจิต ต้องการแสดงซึ่งฤทธิ์กันเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนในเนื้อหาและความหมายของการปฏิบัติธรรมในระบบของพุทธศาสนา ซึ่งเป็นที่มาของความขัดแย้งในข้อธรรมทั้งหลายดั่งที่เห็นและเป็นอยู่…

…โสตกัมมัฏฐาน…

…ครืน ครืน เสียงฟ้าครวญ
ลมพัดหวน ใบไม้ปลิว
สายฝน สัมผัสผิว
หยาดน้ำฝน หล่นลงมา

… ฟ้าดำ ยามค่ำคืน
จนดกดื่น จึงเคลื่อนคลา
ลมหนาว พัดแผ่วมา
ให้หนาวเหน็บ สะท้านกาย

…นั่งฟัง เสียงสายฝน
ที่ร่วงหล่น จนลับหาย
สายฝน ที่โปรยปราย
ชักนำจิต ภาวนา

…เอาเสียง เป็นนิมิต
โดยใช้จิต จับเสียงมา
โสตะ คือวิญญา
เอาเสียงนั้น เป็นอารมณ์

…จับอยู่ จนรู้จิต
เป็นนิมิต เอาจิตข่ม
จนเกิด ธรรมารมณ์
จิตเข้าสู่ ปีติธรรม

…ธรรมะ อยู่รอบกาย
จุดมุ่งหมาย คือน้อมนำ
เอามา เพื่อกระทำ
ประกอบกิจ คุณความดี

…ความดี เกิดที่จิต
เมื่อเราคิด ให้ถูกที่
คิดดี และทำดี
นั้นคือการ ประพฤติธรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๘ ตุลาคม ๒๕๖๕…