ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๗๑

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๗๑…

…ผู้เจริญย่อมไม่เบียดเบียนใครไม่อาฆาตใคร ไม่พยาบาทใครให้อภัยแก่คนทุกจำพวก เจริญเมตตาจิตเป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั้งหลายไม่เอาเรื่องเอาราวกับใคร ใจพร้อมที่จะให้อภัยอยู่เสมอ วางใจได้อย่างนี้ใจเราก็จะมีแต่ความสุข ไม่มีความทุกข์เพราะการให้อภัย…

…ให้มีสติระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา มีสัมปชัญญะ ความรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่เสมออย่าให้เผลอ จิตนิ่งสงบก็รู้อยู่ในความนิ่งสงบนั้น เป็นหนึ่งอยู่รู้ตัวอยู่ ไม่เผลอ ไม่หลง ไม่ส่ง ไม่ส่ายไม่วุ่น ไม่วาย ไม่ปล่อยใจให้ไปออกนอกลู่นอกทาง อยู่กับอารมณ์กรรมฐานตลอดเวลา อย่าให้มีช่องว่างที่กิเลสจะแทรกเข้ามาได้ เราก็จะได้พบกับสภาวธรรมที่แท้จริง…

…มนต์ตรามหาเสน่ห์….

…เสน่ห์ นั้น เกิดจากใจ ภายในจิต
เสน่ห์ นั้น คือมิตร ที่ชิดใกล้
เสน่ห์ นั้น ควรมา จากภายใน
เสน่ห์ นั้น คือใจ ที่ดีงาม

…มี เสน่ห์ เพราะใจ ใสสะอาด
มี เสน่ห์ มารยาท ไม่หยาบยาม
มี เสน่ห์ เพราะอดทน พยายาม
มี เสน่ห์ เพราะความ กรุณา

…เสน่ห์ นั้น หาใช่ ความใคร่อยาก
เสน่ห์ นั้น มาจาก วาสนา
เสน่ห์ นั้น มาจาก ความเมตตา
เสน่ห์ นั้น คือวาจา ที่จริงใจ

…มี เสน่ห์ จากจิตใจ ใช่ใบหน้า
มี เสน่ห์ จากวาจา ที่สดใส
มี เสน่ห์ จากความรู้ อยู่ภายใน
มี เสน่ห์ จากน้ำใจ ที่ใฝ่ดี

…อยากเป็นคน มีเสน่ห์ ต้องฝึกจิต
ปรับความคิด กายวาจา มีราศี
ความอิจฉา พยาบาท อย่าให้มี
กล่าววจี ไพเราะ เหมาะกับกาล

…คนจะงาม งามน้ำใจ ใช่ใบหน้า
คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน
คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน
คนจะรวย รวยศีลทาน ใช่บ้านโต…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๔ กันยายน ๒๕๖๕…