ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๙๒

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๙๒…

…ถามตัวเองอยู่เสมอว่า วันเวลาที่พ้นผ่านไปนั้น เราได้อะไรจากวันเวลาและคุ้มค่าเพียงใดกับวันเวลาที่ผ่านไปหรือไม่ เพื่อไม่ให้เราหลงไปกับวัยและเวลาของชีวิตที่เหลืออยู่และจะได้รีบเร่งสร้างคุณค่าให้แก่ชีวิต แม้เพียงน้อยนิดก็ยังดีกว่าที่จะไม่ได้ทำอะไรเลย

…ไม่ได้มุ่งหวังว่าต้องเป็นชาตินี้หรือชาติหน้า เพียงแต่ตั้งใจไว้ว่าทำต่อไปเรื่อยๆ ถึงเวลาเมื่อไหร่ก็ไปเมื่อนั้น จะไม่สร้างความกดดันให้กับตัวเอง เพราะจะทำให้เกิดอาการเกร็ง จากการเข้าไปเคร่งซึ่งมันจะทำให้เครียด

…”อนากุลา จ กมฺมนฺตา เอตมฺมํ คลมุตฺตมํ

…การทำงานไม่คั่งค้าง เป็นมงคลอันประเสริฐ เพราะทำให้เราตัดกัมมะปลิโพธออกไปได้ถ้าการงานที่เราทำนั้นยังทำไม่เสร็จ มันจะทำให้ค้างคาใจอดที่จะคิดถึงมันไม่ได้และเมื่องานนั้นเสร็จสำเร็จไปแล้ว ปีติมันก็จะเกิดทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้น พยายามทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่างอย่างที่หลวงพ่อพุทธทาสท่านกล่าวสอนไว้

…แด่วันเวลาที่ผ่านไปและลมหายใจของชีวิตที่เหลืออยู่ …

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๕…