ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๒

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๒…

…คำสอนในพุทธศาสนานั้น สอนให้เชื่อในเรื่องของกรรมและให้ยอมรับในผลของกรรม ทั้งในกรรมดีและกรรมเลวที่ได้กระทำมา ชี้ให้เห็นคุณและโทษของกรรมทั้งหลาย ชี้ทางที่ควรทำและห้ามในสิ่งที่ไม่ควรกระทำ

…เวรกรรมนั้นมีจริงไม่ต้องรอชาติหน้าเห็นผลได้ในชาตินี้ เราทำกรรมอะไรไว้มันจะส่งผลให้ไม่ช้าก็เร็ว ทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว ซึ่งเราต้องเตรียมตัวเตรียมใจอย่าหวั่นไหวและตื่นตกใจ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ให้มันเป็นไปตามกรรมที่เราได้ทำมา…

…ร้อยเดือน ร้อยดวงดาว
ร้อยเรื่องราว มาเล่าขาน
บอกเล่า มายาวนาน
ตลอดกาล ที่ผ่านมา

…สอดแทรก ซึ่งธรรมะ
เป็นสาระ ให้ศึกษา
แนวทาง ภาวนา
เห็นคุณค่า ในทางธรรม

…ทางธรรม นำชีวิต
ชี้ถูกผิด มีแบบนำ
บำเพ็ญ กุศลกรรม
เพราะมีธรรม นั้นนำทาง

…นำทาง เพื่อสร้างจิต
ทางชีวิต ให้สว่าง
รู้ลด และละวาง
ให้จิตว่าง จากอัตตา

…อัตตา และมานะ
ควรลดละ ต้นปัญหา
ที่ยึด และถือมา
ต้นปัญหา แห่งบาปกรรม

…บาปกรรม เกิดจากจิต
ความหลงผิด เข้าครอบงำ
ก้าวสู่ ความมืดดำ
จิตตกต่ำ กรรมจึงมา

…ทุกข์กาย และทุกข์จิต
ทุกข์เพราะผิด จิตใฝ่หา
ความสุข ในกามา
ทุกข์เพราะว่า ขาดทางธรรม

…ดูกาย และดูจิต
ดูความคิด ที่ครอบงำ
ดูสิ่ง ที่เราทำ
ดูแล้วนำ มาใคร่ครวญ

…ถูกผิด จิตนั้นรู้
ถ้าตามดู ในทุกส่วน
รู้ควร และไม่ควร
รู้ในส่วน ที่ควรทำ…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๕…