บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๒

…บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๒…

…วันเวลาผ่านไปกับสิ่งรอบกายทั้งภายนอกและภายในที่เราได้เจอะเจอ ล้วนแล้วแต่เป็นครูที่สอนให้เรารู้และเข้าใจในหลักธรรมทำให้นึกถึงคำกล่าวสอนเน้นย้ำของหลวงพ่อพุทธทาส ที่ท่านได้กล่าวอยู่เสมอ เกี่ยวกับเรื่อง “ตัวกู-ของกู” เพื่อเป็นการเน้นย้ำเตือนสติมิให้หลงลืม คือต้องรู้ต้องเข้าใจและทำให้ได้ โดยการมีสติและสัมปชัญญะ เตือนตนเตือนจิตอยู่ตลอดเวลา ดั่งที่เคยกล่าวไว้ว่า “กิเลสทั้งหลายนั้นยังมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น รัก โลภโกรธ หลง เพราะมันเป็นอาคันตุกะที่จรมา” เราต้องคอยเตือนสติระลึกอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้จิตเข้าไปยึดถือติดอยู่ในอารมณ์เหล่านั้น…

…วิถีโลก วิถีธรรม คู่กันไป…

…ฝากไว้เป็น ข้อคิด ให้ศึกษา
เรียนรู้ค่า แห่งชีวิต ทิศทางใหม่
สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น ที่เป็นไป
อาจมิใช่ สิ่งที่คิด พินิจดู

…ควรตั้งจิต ตั้งใจ ให้เปิดกว้าง
มองทุกอย่าง ที่เห็น เพื่อเรียนรู้
เอาทุกอย่าง มาพินิจ คิดเป็นครู
จงเฝ้าดู และวิเคราะห์ ให้เหมาะควร

…มองให้เห็น ความเป็นจริง สิ่งทั้งหลาย
เห็นความหมาย ชั่วและดี นั้นมีส่วน
ทำในสิ่ง ทีดี และที่ควร
ฝึกทบทวน นึกคิด จิตใฝ่ดี

…คุณธรรม นั้นจงมี ในชีวิต
รู้ถูกผิด คุณธรรม นั้นนำชี้
จิตสำนึก ส่วนลึก นั้นใฝ่ดี
เมื่อมันมี โอกาส พึงกระทำ

…โลกและธรรม นำชี้ บทชีวิต
ก่อเกิดกิจ กันไป อย่างสม่ำ
สิ่งที่คิด สิ่งที่เห็น นั้นเป็นธรรม
เป็นประจำ ในชีวิต คิดใคร่ครวญ

…เพราะธรรมะ นั้นคือ ธรรมชาติ
ตามโอกาส และจังหวะ ตามสัดส่วน
สิ่งที่ทำ สิ่งที่คิด กิจที่ควร
ทุกสิ่งล้วน คือธรรม ตามความจริง

…ธรรมะนั้น อยู่ใกล้ ในชีวิต
ถ้าหากจิต ของเรา นั้นหยุดนิ่ง
ก็จะรู้ และเห็น ความเป็นจริง
สรรพสิ่ง ล้วนคือธรรม ที่นำพา

…คือความจริง ทั้งหลาย ในโลกนี้
สิ่งที่มี สิ่งที่เห็น ได้ศึกษา
คือความจริง ใช่สิ่งหลอก โลกมายา
คือธัมมา ธรรมชาติ ที่เป็นไป

…มันคือกฎ ของโลก ที่เป็นอยู่
มันเป็นคู่ กันมา ทุกสมัย
โลกและธรรม คู่กัน นั้นเรื่อยไป
เกิดจากใจ จากจิต ที่คิดจริง

…เมื่อใจรับ ความเป็นจริง สิ่งทั้งหลาย
พบความหมาย ในชีวิต สรรพสิ่ง
ก็จะเห็น โลกธรรม ตามความจริง
สรรพสิ่ง มันก็เป็น เช่นนั้นเอง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต..
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๕…