…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๔๑…
…จิตสำนึกแห่งคุณธรรมคือความรู้สึกละอายและเกรงกลัวต่อบาปและเมื่อเราไม่กล้าทำบาปเราจะทำความดี คนทำความดีจิตใจจะอ่อนโยนมีเมตตา รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละ ละความเห็นแก่ตัวลงไปได้ตามสภาวะ
…เมื่อศีลธรรมไม่กลับมา…
…วุ่นวายและสับสน
เกิดจากคนไร้ศีลธรรม
ความโลภเข้าครอบงำ
เป็นเคราะห์กรรมของบ้านเมือง
…ย่อยยับและยับย่อย
พวกคนถ่อยต่างแค้นเคือง
สร้างเหตุและสร้างเรื่อง
ให้บ้านเมืองต้องวุ่นวาย
…ลาภยศและสรรเสริญ
ถ้าหลงเพลินพาฉิบหาย
เดือดร้อนทั้งใจกาย
เพราะมุ่งหมายประโยชน์ตน
…สูญเสียอยากได้กลับ
ไม่ยอมรับซึ่งเหตุผล
หลอกลวงประชาชน
เพื่อให้ตนได้พ้นภัย
…โกงกินกันทั้งนั้น
ต่างแข่งขันไม่แก้ไข
ต่างคิดเอาแต่ใจ
ไม่ฟังใครไร้ศีลธรรม
…ต่างคิดว่าไม่ผิด
เพราะว่าจิตนั้นถลำ
ความโลภเข้าครอบงำ
ต่างก็ทำตามใจตัว
…สังคมแบ่งฝักฝ่าย
จึงวุ่นวายไปถ้วนทั่ว
ทำเพื่อประโยชน์ตัว
ไม่เกรงกลัวจึงวุ่นวาย
…บ้านเมืองจึงบอบช้ำ
ไร้ศีลธรรมจึงเสียหาย
ทะเลาะฆ่ากันตาย
ดั่งวัวควายไร้ปัญญา
…วุ่นวายและสับสน
ต่างเวียนวนในตัณหา
มัวเมาในกามา
ลืมคุณค่าความเป็นคน
…ศีลธรรมถูกมองข้าม
คนเลวทรามไร้เหตุผล
หวังเพียงประโยชน์ตน
จึงฉ้อฉลและโกงกิน
…ศีลธรรมไม่กลับมา
ทั่วโลกาคงจะสิ้น
วินาศทั่วแผ่นดิน
โลกคงสิ้นสันติธรรม….
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๑ เมษายน ๒๕๖๕…