การปฏิบัติธรรมนั้นคือการเจริญสติและการเจริญสัมปชัญญะ

…การปฏิบัติธรรมนั้นคือการเจริญสติและการเจริญสัมปชัญญะ เพื่อให้มีการระลึกรู้และมีความรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่ทุกขณะจิต กับสิ่งที่คิด สิ่งที่ทำและสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีองค์แห่งคุณธรรมคุ้มครองจิตอยู่ องค์แห่งคุณธรรมที่ว่านั้นคือ ความละอายและเกรงกลัวต่อบาปคอยกระตุ้นเตือนจิตสำนึก

…ความรู้สึกผิดชอบและชั่วดีที่กำลังเกิดขึ้นในความคิด ในจิตของเรา ทำให้เราสามารถที่จะข่มใจไม่ให้คล้อยตามตัณหาความอยากที่เป็นอกุศลนั้นได้ ซึ่งต้องใช้การหมั่นฝึกฝนปฏิบัติเพื่อสร้างความเคยชินให้แก่จิต ในการคิดและการรู้เท่าทันซึ่งอารมณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในจิตของเรา รู้จักการแยกแยะซึ่งกุศลและอกุศลข่มใจตนไม่ให้คล้อยตามซึงกิเลสที่เป็นอกุศลทั้งหลาย โดยใช้การพิจารณามองให้เห็นถึงคุณ ถึงโทษ ถึงประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ของอารมณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น

…กระตุ้นเตือนจิตสำนึกแห่งการใฝ่ดีที่มันมีอยู่ในใจของเราทุกคนให้บังเกิดขึ้น แล้วน้อมนำความคิดนั้นไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้เป็นรูปธรรม แล้วความเจริญในธรรมทั้งหลายก็จะบังเกิดมีแก่ผู้ใฝ่ธรรม ตามกำลังของสติ สัมปชัญญะและปัญญา “เมื่อมีการกระทำ ย่อมต้องมีผลของการกระทำ เป็นสิ่งตอบแทน” ซึ่งผลของการกระทำนั้น เป็นไปตามเหตุและปัจจัยเงื่อนไขที่เรานั้นได้กระทำมา ตามจังหวะ เวลา โอกาส สถานที่และตัวบุคคล…

…ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร…
…๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *