บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖๔

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖๔…

…ทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ล้วนแล้วตั้งอยู่ในกฎของพระไตรลักษณ์นั้นคือความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วดับไปในที่สุดเพราะเข้าไปยึดถือในสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้มันเลยทำให้เกิดทุกข์

…ได้บอกกล่าวแก่ผู้ศึกษาธรรมอยู่เสมอว่า อย่าได้รีบด่วนสรุปหรือไปฟันธงว่าสิ่งที่เรานั้นรู้ เห็นและเข้าใจว่ามันต้องเป็นอย่างนั้น มันต้องเป็นอย่างนี้ ซึ่งผู้ที่สามารถจะชี้ชัดฟันธงได้นั้น มีเพียงพระพุทธเจ้าเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖๔”

ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๒๙

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๒๙…

…ดั่งที่เคยกล่าวไว้ว่า…วิถีโลกและวิถีธรรมนั้นต้องจะเดินคู่กันไป…เพราะว่าเราทั้งหลายนั้น ต้องใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม มิอาจจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้ ต้องมีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันไม่มากก็น้อย ตามจังหวะ เวลาโอกาส สถานที่และตัวบุคคลเป็นเหตุและผลซึ่งกันและกันโลกและธรรมจึงต้องเดินคู่กันไป

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๒๙”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๘๕

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๘๕…

…พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน…

…ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแห่งเราแล้ว เราขอเตือนท่านทั้งหลายให้จำมั่นไว้ว่า สิ่งทั้งปวงมีความเสื่อมและสิ้นไปเป็นธรรมดาท่านทั้งหลายจงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด…

…จะกล่าวเตือนลูกศิษย์เสมอว่า ก่อนที่เราจะจากสถานที่ที่ใดไปนั้น เราต้องเคลียร์ปัญหาทุกอย่างให้จบ อย่าให้ค้างคาใจ ให้จากไปด้วยความรู้สึกที่ดีทั้งสองฝ่ายคือตัวเราและผู้ที่อยู่เบื้องหลัง อย่าให้เขาด่าตามหลังหรือนินทาตามหลัง เมื่อเราจากมา

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๘๕”

เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์

…เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์…

…เพราะอัตตา มันพาไป ใจจึงทุกข์
ไร้ซึ่งสุข เพราะว่าใจ ไปยึดถือ
ว่ามันเป็น ของของเรา อยู่ในมือ
ใจยึดถือ ในสิ่งนั้น อย่างมั่นคง

…ทุกสิ่งอย่าง ย่อมมี การเกิดดับ
เปลี่ยนสลับ กันไป อย่าได้หลง
อนิจจัง นั้นคือความ ไม่มั่นคง
จึงต้องปลง ลดละ ซึ่งอัตตา

…เพราะอัตตา ตัวตน ของคนนั้น
ไปยึดมั่น ยึดถือ ในเนื้อหา
ไม่ยอมรับ ซึงความเป็น อนิจจา
มันจึงพา ให้เกิดทุกข์ ไม่สุขใจ

…ทุกข์เพราะความ อยากมี และอยากเป็น
อยากจะเห็น ให้มันเป็น เช่นนั้นได้
ไม่อยากให้ มันจาก หรือพรากไป
อยากจะให้ มันนั้นอยู่ คู่กับเรา

…สิ่งเหล่านี้ คืออัตตา และมานะ
ถ้าไม่ละ จะนำจิต คิดโง่เขลา
หลงตัวตน ความคิด จิตมึนเมา
เพราะว่าเข้า ไปยึดติด จิตผูกพัน

…อยากจะให้ เป็นไป อย่างที่คิด
ไปยึดติด ให้มันเป็น อยู่เช่นนั้น
ไม่อยากให้ มันนั้นจาก หรือพรากกัน
ความยึดมั่น และยึดถือ คืออัตตา

…เพราะอัตตา ตัวตน ของคนนี้
ทำให้มี มากมาย หลายปัญหา
ผลกระทบ มากมาย จึงตามมา
ก็เพราะว่า ไม่ยอมรับ ซึ่งความจริง

…ทุกสิ่งอย่าง ล้วนอยู่ใน พระไตรลักษณ์
ไปตามหลัก ธรรมชาติ ในทุกสิ่ง
และเมื่อใจ ไม่ยอมรับ ในความจริง
มันก็ยิ่ง ทำให้ทุกข์ ไม่สุขใจ

…เพราะว่าใจ อยากได้ ซึ่งความสุข
จึงต้องทุกข์ เพราะอยากมี และอยากได้
อยากจะอยู่ อยากจะเห็น และเป็นไป
ตามที่ใจ ของตน นั้นต้องการ

…เมื่อไม่ได้ ตามที่ใจ ปรารถนา
ก็นำมา ให้เกิดทุกข์ ไม่สุขสาน
ถ้าอยากให้ ใจไม่ทุกข์ สุขสำราญ
ต้องฝึกการ ละวาง ห่างอัตตา

…ฝึกทำใจ ให้ยอมรับ ในความจริง
กับทุกสิ่ง ที่เกิดดับ ตามเนื้อหา
ฝึกซึ่งการ ลดละ ซึ่งอัตตา
ภาวนา ให้มันเห็น ความเป็นจริง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕…

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖๓

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖๓…

…ถามตัวเองอยู่เสมอว่า วันเวลาที่ผ่านไปเราได้อะไรจากวันเวลาและคุ้มค่ากับวันเวลาที่ผ่านไปหรือไม่ เพื่อไม่ให้เราหลงไปกับวัยและเวลาของชีวิตที่เหลืออยู่ และจะได้รีบเร่งสร้างคุณค่าให้แก่ชีวิต แม้เพียงน้อยนิดก็ยังดีกว่าที่จะไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้มุ่งหวังว่าต้องเป็นชาตินี้หรือชาติหน้า เพียงแต่ตั้งใจไว้ว่าทำต่อไปเรื่อย ๆ ถึงเมื่อไหร่ก็ไปเมื่อนั้น จะไม่สร้างความกดดันให้กับตัวเอง เพราะจะทำให้เกิดอาการเกร็งแล้วเข้าไปเคร่ง ซึ่งมันจะทำให้เครียด

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖๓”

เขียนในโอกาสวันแม่แห่งชาติ

…เขียนในโอกาสวันแม่แห่งชาติ…

…วันนี้เป็นวันที่เขาสมมุติว่าเป็น

“วันแม่แห่งชาติ” แต่สำหรับตัวเรานั้นทุกวันก็คือวันแม่ ทุกครั้งที่ได้กระทำในสิ่งที่เป็นกุศล ก็ได้ตั้งจิตแผ่บุญกุศลนั้นให้แม่ได้มีส่วนร่วมอยู่ทุกครั้ง ทำอย่างนี้ตลอดมาตั้งแต่เริ่มเข้าสู่เส้นทางธรรมจนถึงปัจจุบันนี้…

อ่านเพิ่มเติม “เขียนในโอกาสวันแม่แห่งชาติ”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๘๔

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๘๔…

…ทุกคืนหลังจากทำวัตรเย็นเสร็จแล้วจะมีเวลาเขียนบทความบทกวีธรรมหรือบางครั้งก็จะเปิดฟังธรรมบรรยายของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ในช่องยูทูปซึ่งในยุคสมัยนี้การเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ นั้นทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อน…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๘๔”

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๒๘

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๒๘…

…ทุกชีวิตย่อมมีเป้าหมาย
อย่าปล่อยให้ผ่านไปโดยไร้ค่า
อย่าปล่อยวันเวลาให้สูญเปล่า
ชีวิตเรานั้นควรจะมีเป้าหมาย
ฝันนั้นอาจจะตั้งไว้ไม่ไกล
แต่เรานั้นต้องเดินไปให้ถึง
ทำซึ่งความฝันนั้นให้เป็นจริง
ไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินจะกระทำ…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๒๘”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖๒

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖๒…

…ประเพณีที่ชาวพุทธหลายท่านอาจจะหลงลืมกันไป ก็คือประเพณีทำบุญถวายผ้าอาบน้ำฝน ซึ่งผ้าอาบน้ำฝนนั้นเป็นผ้าสำหรับอธิษฐานไว้ใช้นุ่งอาบน้ำฝนตลอด ๔ เดือนแห่งฤดูฝน ซึ่งพระภิกษุจะแสวงหาได้ ในระยะเวลา ๑ เดือนตั้งแต่แรม ๑ ค่ำเดือน ๗ จนถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ และให้ทำนุ่งได้ในเวลากึ่งเดือนตั้งแต่ขึ้น ๑ ค่ำจนถึง ๑๕ ค่ำเดือน ๘

…ปัจจุบันมีประเพณีทำบุญถวายผ้าอาบน้ำฝนตามวัดต่างๆในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ ผ้าอาบน้ำฝนนั้น คำศัพท์ภาษาพระเรียกว่า “วัสสิกสาฏิกา” และผ้าบังสุกุลจีวรก็สามารถใช้เป็นผ้าอาบน้ำฝนได้เหมือนกัน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๔…

ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๒๘

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๒๘…

“ความไม่ประมาท เป็นยอดแห่งธรรมทั้งปวง”
“อปฺปมาโท เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายติ”
พุทธสุภาษิต คถาคตสูตร ๑๙/๖๗
……………………………….

…ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนแต่สมมุติกันขึ้นมา บัญญัติกันตามชาติและภาษาจึงมีชื่อแตกต่างกันออกไป ไม่มีอะไรที่จะฝืนกฎของพระไตรลักษณ์นั้นได้เลยอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา คือมายาของโลกสมมุติ ที่เราหลงไปติดอยู่ หลงเข้าไปยึดถือ จนไม่เห็นสัจธรรมที่แท้จริง ของสรรพสิ่งธรรมชาติที่อยู่รอบกายและภายในจิตภายในใจของเรา…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๒๘”